เมนู

พึงทราบวินิจฉัยในบทมีอาทิว่า ยาวกีวญฺจ เพียงใดดังต่อไปนี้.
เรายังไม่รู้ทั่วถึง คือ ไม่แทงตลอดด้วยญาณอันยิ่งซึ่งคุณโดยความเป็นคุณ ฯลฯ
แห่งอุปาทานขันธ์ 5 เหล่านี้ ตามความเป็นจริงเพียงใด เราก็ยังไม่ปฏิญาณ
คือ ไม่ทำการปฏิญญา ว่า เราเป็นอรหันต์ได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
คือ ความเป็นสัพพัญญู ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่าเพียงนั้น พึงทราบอรรถโดยความ
เชื่อมด้วยประการฉะนี้. บทว่า กีวญฺจ เป็นเพียงนิบาต. บทว่า ยโต
คือ เพราะเหตุใด หรือในกาลใด. บทว่า อถ คือในลำดับ.
บทว่า ญาณญฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทิ ญาณทัศนะเกิดขึ้น
แก่เรา คือ ปัจจเวกขณญาณ คือ ทัศนะเกิดขึ้นแก่เราด้วยทำด้วยทำกิจคือทัศนะ. บทว่า
อกุปฺปา ไม่กำเริบ คือ ไม่อาจให้กำเริบ ให้หวั่นไหวได้. บทว่า วิมุตฺติ
คือ อรหัตผลวิมุตติ แม้การพิจารณามรรคนิพพานก็เป็นอันท่านกล่าวด้วยการ
พิจารณาผลนั่นเอง. บทว่า อยมนฺติมา ชาติ ชาตินี้มีในที่สุด คือ ความ
เป็นไปแห่งขันธ์นี้มีในที่สุด. บทว่า นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว บัดนี้ความเกิด
อีกมิได้มี คือ บัดนี้ไม่มีการเกิดอีก ด้วยบทนี้เป็นอันท่านกล่าวถึงการพิจารณา
กิเลสที่ละได้แล้ว เพราะการพิจารณากิเลสที่ยังเหลืออยู่ ไม่มีแก่พระอรหันต์.
จบอรรถกถาทุติยสุตตันตปาลินิเทศ

อรรถกถาทุติยสุตตันตนิเทศ


การรู้ว่า สุขโสมนัสสัมปยุตด้วยตัณหานี้เป็นคุณแห่งรูป ในลำดับ
แห่งการประกอบสัจจปฏิเวธญาณ และในส่วนเบื้องต้นว่า อยํ รูปสฺส อสฺสา-
โทติ ปหานปฺปฏิเวโธ
การแทงตลอดด้วยการละว่า สุขโสมนัสนี้เป็นคุณ