เมนู

มหาวรรค คติกถา


ว่าด้วยคติสมบัติ


[517] ในกรรมอันสัมปยุตด้วยญาณ คติสมบัติย่อมมีเหตุเกิดเพราะ
ปัจจัยแห่งเหตุเท่าไร กษัตริย์มหาศาล พราหมณมหาศาล คฤหบดีมหาศาล
เทวดาชั้นกามาวจร ย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่งเหตุเท่าไร เทวดาชั้นรูปาวจร
ย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่งเหตุเท่าไร เทวดาชั้นอรูปาวจร ย่อมอุบัติเพราะปัจจัย
แห่งเหตุเท่าไร.
ในกรรมอันสัมปยุตด้วยญาณ คติสมบัติย่อมมีเหตุเกิดเพราะปัจจัยแห่ง
เหตุ 8 ประการ กษัตริย์มหาศาล พราหมณมหาศาล คฤหบดีมหาศาล เทวดา
ชั้นกามาวจร ย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่งเหตุ 8 ประการ เทวดาชั้นรูปาวจร
เทวดาชั้นอรูปาวจร ย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่งเหตุ 8 ประการ.
[518] ในธรรมอันสัมปยุตด้วยญาณ คติสมบัติย่อมมีเหตุเกิดเพราะ
ปัจจัยแห่งเหตุ 8 ประการเป็นไฉน.
ในขณะแล่นไปแห่งกุศลกรรม เหตุ 3 ประการเป็นกุศล เป็นสหชาต-
ปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า แม้เพราะ
กุศลมูลเป็นปัจจัย ก็มีสังขาร ในขณะความพอใจ เหตุ 2 ประการเป็นอกุศล
เป็นสหชาตปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า
แม้เพราะอกุศลมูลเป็นปัจจัย ก็มีสังขาร ในขณะปฏิสนธิ เหตุ 3 ประการ
เป็นอัพยากฤต เป็นสหชาตปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้น
ท่านจึงกล่าวว่า แม้เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ก็มีวิญญาณ แม้วิญญาณเป็น

ปัจจัย ก็มีนามรูป ในขณะปฏิสนธิ เบญจขันธ์เป็นสหชาตปัจจัย เป็นอัญญ-
มัญญปัจจัย เป็นนิสสยปัจจัย เป็นวิปปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ มหาภูต-
รูป 4 เป็นสหชาตปัจจัย เป็นอัญญมัญญปัจจัย เป็นนิสสยปัจจัย ในขณะ
ปฏิสนธิ เครื่องปรุงชีวิต 3 ประการเป็นสหชาตปัจจัย เป็นนิสสยปัจจัย เป็น
วิปปยุตตปัจจัยในขณะปฏิสนธิ นามและรูปเป็นสหชาตปัจจัย... เป็นวิปปยุตต-
ปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ ธรรม 14 ประการนี้ เป็นสหชาตปัจจัย... เป็น
วิปปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ อรูปขันธ์ เป็นสหชาตปัจจัย... เป็นสัมป-
ยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ อินทรีย์ 5 เป็นสหชาตปัจจัย... เป็นสัมปยุตต-
ปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ เหตุ 3 ประการเป็นสหชาตปัจจัย... เป็นสัมปยุตตปัจจัย
ในขณะปฏิสนธิ นามและวิญญาณเป็นสหชาตปัจจัย... เป็นสัมปยุตตปัจจัย
ในขณะปฏิสนธิ ธรรม 14 ประการนี้ เป็นสหชาตปัจจัย... เป็นสัมปยุตตปัจจัย
ในขณะปฏิสนธิ ธรรม 28 ประการนี้ เป็นสหชาตปัจจัย... เป็นวิปปยุตตปัจจัย
ในกรรมอันเป็นสัมปยุตตญาณ คติสมบัติย่อมมีเหตุเกิดเพราะปัจจัยแห่งเหตุ 8
ประการนี้.
[519] ในกรรมอันสัมปยุตด้วยญาณ กษัตริย์มหาศาล พราหมณ-
มหาศาล คฤหบดีมหาศาล เทวดาชั้นกามาวจร ย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่ง
เหตุ 8 ประการเป็นไฉน.
ในขณะแล่นไปแห่งกุศลกรรม เหตุ 3 ประการเป็นกุศล เป็นสหชาต-
ปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า แม้เพราะ
กุศลมูลเป็นปัจจัย ก็มีสังขาร ในขณะความพอใจ เหตุ 2 ประการเป็นอกุศล
เป็นสหชาตปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า
แม้เพราะอกุศลมูลเป็นปัจจัย ก็มีสังขาร ในขณะปฏิสนธิ เหตุ 3 ประการ

เป็นอัพยากฤต เป็นสหชาตปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้น
ท่านจงกล่าวว่า แม้เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ก็มีวิญญาณ แม้เพราะวิญญาณ
เป็นปัจจัย ก็มีนามรูปในขณะปฏิสนธิ เบญจขันธ์เป็นสหชาตปัจจัย เป็น
อัญญมัญญปัจจัย เป็นนิสสยปัจจัย เป็นวิปปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ
มหาภูตรูป 4 เป็นสหชาตปัจจัย เป็นอัญญมัญญปัจจัย เป็นนิสสยปัจจัย ใน
ขณะปฏิสนธิ เครื่องปรุงชีวิต 3 ประการ เป็นสหชาตปัจจัย เป็นอัญญมัญญ-
ปัจจัย เป็นนิสสยปัจจัย เป็นวิปปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ นามและรูป
เป็นสหชาตปัจจัย เป็นนิสสยปัจจัย เป็นวิปปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ
ธรรม 14 ประการนี้ เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นวิปปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ
อรูปขันธ์ 4 เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ อินทรีย์ 5
เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ เหตุ 3 ประการ
เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ นามและวิญญาณ
เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ ธรรม 14 ประการนี้
เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ ธรรม 28 ประการนี้
เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นวิปปยุตตปัจจัย กษัตริย์มหาศาล พราหมณมหาศาล
คฤหบดีมหาศาล เทวดาชั้นกามาวจร ย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่งเหตุ 8 ประการนี้.
[520] เทวดาชั้นรูปาวจรย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่งเหตุ 8 ประการ
เป็นไฉน.
ในขณะแล่นไปในกุศลกรรม เหตุ 3 ประการเป็นกุศล ฯลฯ เทวดา
ชั้นรูปาวจรย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่งเหตุ 8 ประการนี้.
เทวดาชั้นอรูปาวจรย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่งเหตุ 8 ประการเป็นไฉน.

ในขณะแล่นไปแห่งกุศลกรรม เหตุ 3 ประการเป็นกุศล เป็นสหชาต-
ปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า แม้เพราะ
กุศลมูลเป็นปัจจัย ก็มีสังขาร ในขณะความพอใจ เหตุ 2 ประการเป็นอกุศล
เป็นสหชาตปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า
แม้เพราะอกุศลมูลเป็นปัจจัย ก็มีสังขาร ในขณะปฏิสนธิ เหตุ 3 ประการ
เป็นอัพยากฤต เป็นสหชาตปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้น
ท่านจึงกล่าวว่า แม้เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ก็มีวิญญาณ แม้เพราะวิญญาณ
เป็นปัจจัย ก็มีนามรูป ในขณะปฏิสนธิ อรูปขันธ์ 4 เป็นสหชาตปัจจัย
เป็นอัญญมัญญปัจจัย เป็นนิสสยปัจจัย เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ
อินทรีย์ 5 เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ เหตุ 3
ประการเป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ นามและ
วิญญาณเป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ ธรรม 14
ประการนี้ เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย เทวดาชั้นอรูปาวจร
ย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่งเหตุ 8 ประการนี้.
[521] ในกรรมอันไม่ประกอบด้วยญาณ คติสมบัติย่อมมีเหตุเกิด
เพราะปัจจัยแห่งเหตุเท่าไรกษัตริย์มหาศาล พราหมณมหาศาล คฤหบดีมหาศาล
เทวดาชั้นกามาวจร ย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่งเหตุเท่าไร.
ในกรรมอันไม่ประกอบด้วยญาณ คติสมบัติย่อมเกิดเพราะปัจจัยเเห่ง
เหตุ 6 ประการ กษัตริย์มหาศาล พราหมณมหาศาล คฤหบดีมหาศาล เทวดา
ชั้นกามาวจร ย่อมอุบัติเพราะปัจจัยแห่งเหตุ 6 ประการ.
[522] ในกรรมอันไม่ประกอบด้วยญาณ คติสมบัติย่อมมีเหตุเกิด
เพราะปัจจัยแห่งเหตุ 6 ประการเป็นไฉน.

ในขณะแล่นไปแห่งกุศลกรรม เหตุ 2 ประการเป็นกุศล เป็นสหชาต-
ปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า แม้เพราะ
กุศลมูลเป็นปัจจัย ก็มีสังขาร ในขณะความพอใจ เหตุ 2 ประการเป็นอกุศล
เป็นสหชาตปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า
แม้เพราะอกุศลมูลเป็นปัจจัย ก็มีสังขาร ในขณะปฏิสนธิ เหตุ 2 ประการ
เป็นอัพยากฤต เป็นสหชาตปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้น
ท่านจึงกล่าวว่า แม้เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ก็มีวิญญาณ แม้เพราะวิญญาณ
เป็นปัจจัย ก็มีนามรูป ในขณะปฏิสนธิ เบญจขันธ์เป็นสหชาตปัจจัยเป็น
อัญญมัญญปัจจัย เป็นนิสสยปัจจัย เป็นวิปปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ
มหาภูตรูป 4 เป็นสหชาตปัจจัย เป็นอัญญมัญญปัจจัย เป็นนิสสยปัจจัย
ในขณะปฏิสนธิ เครื่องปรุงชีวิต 3 ประการเป็นสหชาตปัจจัย...เป็นวิปป-
ยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ นามและรูปเป็นสหชาตปัจจัย...เป็นวิปปยุตตปัจจัย
ในขณะปฏิสนธิ ธรรม 14 ประการนี้เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นวิปปยุตตปัจจัย
ในขณะปฏิสนธิ อรูปขันธ์ 4 เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตปัจจัย ในขณะ
ปฏิสนธิ อินทรีย์ 4 เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ
เหตุ 2 ประการเป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ
นามและวิญญาณเป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ
ธรรม 12 ประการนี้เป็นสหชาตปัจจัย...เป็นสัมปยุตตปัจจัย ในขณะปฏิสนธิ
ธรรม 26 ประการเป็นสหชาตปัจจัย...เป็นวิปปยุตตปัจจัย ในกรรมอันประกอบ
ด้วยญาณ คติสมบัติย่อมมีเหตุเกิดเพราะปัจจัยแห่งเหตุ 6 ประการนี้ กษัตริย์
มหาศาล พราหมณมหาศาล คฤหบดีมหาศาล เทวดาชั้นกามาวจร ย่อมอุบัติ
เพราะปัจจัยแห่งเหตุ 6 ประการนี้.

ในขณะแล่นไปแห่งกุศลกรรม เหตุ 2 ประการเป็นกุศล เป็นสหชาต-
ปัจจัยแห่งเจตนาที่เกิดในขณะนั้น เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า แม้เพราะ-
กุศลมูลเป็นปัจจัย ก็มีสังขาร ฯลฯ ในกรรมอันไม่ประกอบด้วยญาณ กษัตริย์
มหาศาล พราหมณมหาศาล คฤหบดีมหาศาล เทวดาชั้นกามาวจร ย่อมอุบัติ
เพราะปัจจัยแห่งเหตุ 6 ประการนี้.
จบคติกถา

อรรถกถาคติกถา


บัดนี้ การพรรณนาความตามลำดับที่ยังไม่เคยพรรณนาแห่งคติกถาอัน
พระสารีบุตรเถระแสดงถึงเหตุสมบัติอันเป็นเหตุแห่งการเกิดวิโมกข์นั้นกล่าวไว้
แล้ว. แม้ฌานก็จะไม่เกิดขึ้น แม้แก่ผู้เป็นทุเหตุกปฏิสนธิ เพราะพระบาลีว่า
นตฺถิ ฌานํ อปญฺญสฺส ฌานย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่มีปัญญา ก็วิโมกข์จะเกิดได้
อย่างไร.
ในบทเหล่านั้น บทว่า คติสมฺปตฺติยา คติสมบัติ คือ คติสมบัติ
อันได้แก่มนุษย์และเทพในบรรดาคติ 5 คือ นรก กำเนิดเดียรัจฉาน เปรตวิสัย
มนุษย์ และเทพ. ด้วยบทนี้แลท่านปฏิเสธคติวิบัติ 3 ข้างต้น. สมบัติแห่งคติ
ชื่อว่า คติสมบัติ. ท่านอธิบายว่า สุคติ. อนึ่ง ขันธ์ทั้งหลายพร้อมกับโอกาส
ชื่อว่า คติ. และในคติ 5 ท่านถือเอาแม้อสุรกาย ด้วยศัพท์ว่า เปตติวิสัย.
บทว่า เทวา ได้แก่ กามาวจรเทพ 6 และพรหมทั้งหลาย. แม้อสูรท่านก็