เมนู

อรรถกถาอัสสาทนิเทศ


พึงทราบวินิจฉัยในอัสสาทนิเทศดังต่อไปนี้. บทว่า อสฺสทฺธิยสฺส
อนุปฏฺฐานํ
ความไม่ปรากฏแห่งความเป็นผู้ไม่มีศรัทธา คือ เว้นบุคคลผู้ไม่มี
ศรัทธา คบบุคคลผู้มีศรัทธา พิจารณาปสาทนียสูตรและทำโยนิโสมนสิการใน
สูตรให้มาก ชื่อว่า ความไม่ปรากฏแห่งความเป็นผู้ไม่มีศรัทธา. ในบทว่า
อสฺสทฺธิยปริฬาหสฺส อนุปฏฺฐานํ ความไม่ปรากฏแห่งความเร่าร้อนเพราะ
ความเป็นผู้ไม่มีศรัทธานี้ เมื่อพูดถึงศรัทธาเป็นไปแก่คนไม่มีศรัทธา ความ
ทุกข์ โทมนัส ย่อมเกิด นี้ชื่อว่าความเร่าร้อน เพราะความเป็นผู้ไม่มีศรัทธา.
บทว่า อธิโมกฺขจริยาย เวสารชฺชํ ความแกล้วกล้าแห่งความประพฤติด้วย
ความน้อมใจเชื่อ คือ ความเป็นผู้แกล้วกล้าด้วยความเป็นไปแห่งศรัทธาของ
ผู้ถึงความชำนาญด้วยสามารถแห่งวัตถุอันเป็นศรัทธา หรือด้วยภาวนา. บทว่า
สนฺโต จ วิหาราธิคโม ความสงบและการบรรลุสุขวิหารธรรม คือ การได้
สมถะหรือวิปัสสนา. คำว่า โสมนัส ในบทว่า สุขํ โสมนสฺสํ นี้ เพื่อ
แสดงถึงความสุขทางใจ แม้ความสุขทางกายก็ย่อมได้แก่กายอันสัมผัสด้วยรูป
ประณีต เกิดขึ้นเพราะสัทธินทรีย์ เพราะความสุขโสมนัสเป็นประธานและ
เป็นคุณ ท่านจึงกล่าวให้พิเศษว่า สุขและโสมนัสนี้เป็นคุณแห่งสัทธินทรีย์
โดยนัยนี้พึงทราบประกอบแม้คุณแห่งอินทรีย์ที่เหลือ.
จบอรรถกถาอัสสาทนิเทส

อรรถกถาอาทีนวนิเทศ


พึงทราบวินิจฉัยในอาทีนวนิเทศดังต่อไปนี้. บทว่า อนิจฺจฏฺเฐน
เพราะอรรถว่าไม่เที่ยง คือ เพราะอรรถว่า สัทธินทรีย์ไม่เที่ยง ท่านกล่าวว่า
สัทธินทรีย์นั้นมีอรรถว่าไม่เที่ยง เป็นโทษของสัทธินทรีย์. แม้ในสองบท
นอกนี้ก็มีนัยนี้เหมือนกัน. พึงทราบว่าโทษเหล่านี้เป็นโทษของคุณของเหตุเกิด
และความดับของอินทรีย์อันเป็นโลกิยะนั่นเอง.
จบอรรถกถาอาทีนวนิเทศ

อรรถกถานิสสรณนิเทศ


พึงทราบวินิจฉัยในนิสสรณนิเทศดังต่อไปนี้.ในบทว่า อธิโมกฺขฏฺเฐน
ด้วยอรรถว่า ความน้อมใจเชื่อเป็นอาทิ ท่านทำอย่างละ 5 ในอินทรีย์หนึ่ง ๆ
แล้วแสดงอินทรีย์ 5 มีอุบายเป็นเครื่องสลัดออก 25 ด้วยสามารถมรรคแห่งผล.
ในบทเหล่านั้น บทว่า ตโต ปณีตตรสทฺธินฺทฺริยสฺส ปฏิลาภา แต่
การได้สัทธินทรีย์ที่ประณีตกว่านั้น คือ ด้วยสามารถการได้สัทธินทรีย์ที่ประณีต
กว่าในขณะแห่งมรรค จากสัทธินทรีย์ที่เป็นไปแล้วในขณะแห่งวิปัสสนานั้น.
บทว่า ปุริมตรสทฺธินฺทฺริยา นิสฺสฏํ โหติ สลัดออกไปจากสัทธินทรีย์ที่มี
อยู่ก่อน คือ สัทธินทรีย์ในขณะแห่งมรรคนั้นออกไปแล้วจากสัทธินทรีย์ที่เป็น
ไปแล้วในขณะแห่งวิปัสสนาที่มีอยู่ก่อน. โดยนัยนี้แหละพึงประกอบแม้สัทธิน-
ทรีย์ในขณะแห่งผล แม้อินทรีย์ที่เหลือในขณะทั้งสองนั้น.