เมนู

ต่าง ๆ กัน ย่อมสำเร็จด้วยการคำนึงต่าง ๆ กัน แล้วอธิฏฐานว่า พระ-
พุทธนิรมิตประมาณเท่านี้ จงเป็นเช่นนี้. พระพุทธนิรมิตประมาณ
เท่านี้ จงทำสิ่งนี้. ส่วนการนิรมิตหลาย ๆ อย่าง ย่อมสำเร็จแก่พระ-
ตถาคต ด้วยการคำนึงอธิฏฐานครั้งเดียวเท่านั้น. พึงทราบในการนิรมิต
ท่อไฟและสายน้ำ และในการนิรมิตวรรณะต่าง ๆ ด้วยประการฉะนี้.
ในบทเหล่านั้น บทว่า ภควา จงฺกมติ คือ พระผู้มีพระภาค-
เจ้าเสด็จจงกรมในอากาศหรือบนแผ่นดิน. บทว่า นิมฺมิโต ได้แก่
รูปพระพุทธเจ้าที่นิรมิตด้วยฤทธิ์. แม้บทว่า ติฏฺฐติ วา- พระพุทธ-
นิรมิตประทับยืน เป็นอาทิ ได้แก่ ประทับยินในอากาศหรือบนแผ่น
ดิน. บทว่า กปฺเปติ - ย่อมสำเร็จ คือ กระทำ. แม้ในบทมีอาทิว่า
ภควา ติฏฺฐติ - พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับยืน ก็มีนัยนี้เหมือนกัน.
จบ อรรถกถายกปาฏิหีรญาณนิทเทส


มหากรุณาสมาปัตติญาณนิทเทส


[ 285] มหากรุณาสมาปัตติญาณของพระตถาคตเป็นไฉน ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลาย ผู้ตรัสรู้แล้ว ทรงพิจารณาเห็นอยู่
ด้วยอาการเป็นอันมาก จึงทรงแผ่พระมหากรุณาไปในหมู่สัตว์ คือพระ-

ผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลาย ผู้ตรัสรู้แล้ว ทรงเห็นอยู่ว่า โลกสันนิวาสอันไฟ
ติดโชนแล้ว จึงทรงแผ่พระมหากรุณาไปในหมู่สัตว์ พระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้ตรัสรู้แล้ว ทรงเห็นอยู่ว่า โลกสันนิวาสยกพลแล้ว . . .โลกสันนิวาส
เคลื่อนพลแล้ว . . . โลกสันนิวาสเดินผิดแล้ว . . . โลกอันชรานำเข้าไป
มิได้ยั่งยืน ...โลกไม่มีที่ต้านทาน ไม่เป็นใหญ่ . . .โลกไม่มีอะไรเป็น
ของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวงไป . . .โลกพร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่ม
เป็นทาสแห่งตัณหา . . . โลกสันนิวาสไม่มีทีต้านทาน ... โลกสันนิวาส
ไม่มีที่เร้น ... โลกสันนิวาสไม่มีที่พึ่ง ... โลกสันนิวาสไม่เป็นที่พึ่งของใคร
...โลกสันนิวาสฟุ้งซ่าน ไม่สงบ...โลกสันนิวาสมีลูกศร ถูกลูกศรเป็น
จำนวนมากเสียบแทงแล้ว ใครอื่นนอกจากเราผู้จะถอนลูกศรทั้งหลาย
ของโลกสันนิวาสนั้น เป็นไม่มี...โลกสันนิวาสมีความมืดตื้อคืออวิชชา
ปิดกั้นไว้ ถูกใส่เข้าไปยังกรงกิเลส ใครอื่นอกจากเราซึ่งจะแสดงธรรม
เป็นแสงสว่างแก่โลกสันนิวาสนั้น เป็นไม่มี. . .โลกสันนิวาสตกอยู่ใน
อำนาจอวิชชา เป็นผู้มืด อันอวิชชาหุ้มห่อไว้ ยุ่งดังเส้นด้าย พันกัน
เป็นกลุ่มก้อน นุงนังดังหญ้าปล้อง หญ้ามุงกระต่าย ไม่ล่วงพ้นสงสาร
คือ อบายทุคติและวินิบาต ...โลกสันนิวาสถูกอวิชชามีโทษเป็นพิษแทง
ติดอยู่แล้ว มีกิเลสเป็นโทษ .. . โลกสันนิวาสรกชัฏด้วยราคะโทสะและ
โมหะ ใครอื่นนอกจากเราผู้จะช่วยสางรกชัฏให้แก่โลกสันนิวาสนั้น เป็น
ไม่มี... โลกสันนิวาสถูกกองตัณหาสวมไว้...โลกสันนิวาสถูกข่ายตัณหา
ครอบไว้ ... โลกสันนิวาสถูกกระแสตัณหาพัดไป...โลกสันนิวาสถูกตัณหา

เป็นเครื่องคล้อง คล้องไว้ ... โลกสันนิวาสซ่านไปเพราะตัณหานุสัย...
โลกสันนิวาสเดือดร้อนด้วยความเดือดร้อนเพราะตัณหา .. โลกสันนิวาส
เร่าร้อนด้วยความเร่าร้อนเพราะตัณหา ... โลกสันนิวาสถูกกองทิฏฐิสวม
ไว้ ... โลกสันนิวาสถูกข่ายทิฏฐิครอบไว้ . . . โลกสันนิวาสถูกกระแสทิฏฐิ
พัดไป...โลกสันนิวาสถูกทิฏฐิเป็นเครื่องคล้อง คล้องไว้ .. โลกสันนิวาส
ซ่านไปเพราะทิฏฐานุสัย . . . โลกสันนิวาสเดือดร้อนด้วยความเดือดร้อน
เพราะทิฏฐิ ... โลกสันนิวาสเร่าร้อนด้วยความเร่าร้อนเพราะทิฏฐิ ... โลก
สันนิวาสไปตามชาติ... โลกสันนิวาสซมซานไปเพราะชรา ... โลกสันนิ-
วาสถูกพยาธิครอบงำ ... โลกสันนิวาสถูกมรณะห้ำหั่น ... โลกสันนิวาส
ตกอยู่ในกองทุกข์ . . . โลกสันนิวาสถูกตัณหาซัดไป โลกสันนิวาสถูก
กำแพงคือชราแวดล้อมไว้ . . . โลกสันนิวาสถูกบ่วงมัจจุคล้องไว้ . . . โลก
สันนิวาสถูกผูกไว้ด้วยเครื่องผูกเป็นอันมาก คือเครื่องผูกคือราคะ โทสะ
โมหะ มานะ ทิฏฐิ กิเลส ทุจริต ใครอื่นนอกจากเราผู้จะช่วยแก้
เครื่องผูกให้แก่โลกสันนิวาสนั้น เป็นไม่มี . . . .โลกสันนิวาสเดินไปตาม
ทางแคบมาก ใครอื่นนอกจากเขาผู้จะช่วยชี้ทางสว่างให้แก่โลกสันนิวาส
นั้น เป็นไม่มี . . . โลกสันนิวาสถูกความกังวลเป็นอันมากพันไว้ ใคร
อื่นนอกจากเราผู้จะช่วยตัดความกังวลให้แก่โลกสันนิวาสนั้น เป็นไม่มี...
โลกสันนิวาสตกลงไปในเหวใหญ่ ใครอื่นนอกจากเราผู้จะช่วยฉุดโลก
สันนิวาสนั้นให้ขึ้นพ้นจากเหวเป็นไม่มี ... โลกสันนิวาสเดินทางกันดาร

มาก ใครอื่นนอกจากเราผู้จะช่วยให้โลกสันนิวาสนั้นข้ามพ้นทางกันดาร
ได้ เป็นไม่มี. . .โลกสันนิวาสเดินทางไปในขางสารวัฏใหญ่ ใครอื่น
นอกจากเราผู้จะช่วยให้โลกสันนิวาสนั้นพ้นจากสังขารวัฏได้ เป็นไม่มี...
โลกสันนิวาสกลิ้งเกลือกอยูในหล่มใหญ่ ใครอื่นนอกจากเราผู้ช่วย
ฉุดโลกสันนิวาสนั้นให้พ้นจากหล่มได้ เป็นไม่มี...โลกสันนิวาสร้อนอยู่
บนเครื่องร้อนเป็นอันมาก ถูกไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ ชาติ
ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปยาสครอบงำไว้
ใครอื่นนอกจากเราผู้จะช่วยดับไฟเหล่านั้นให้แก่โลกสันนิวาสนั้นได้
เป็นไม่มี. . .โลกสันนิวาสทุรนทุราย เดือดร้อนเป็นนิตย์ ไม่มีอะไร
ต้านทาน ต้องรับอาชญา ต้องทำตามอาชญา . . . โลกสันนิวาสถูกผูก
ด้วยเครื่องผูกในวัฏฏะปรากฏอยู่ที่ตะแลงแกง ใครอื่นนอกจากเราผู้จะ
ช่วยโลกสันนิวาสนั่นให้หลุดพ้นได้ เป็นไม่มี...โลกสันนิวาสมีที่พึ่ง
ควรได้รับความกรุณาอย่างยิ่ง ใครอื่นนอกจากเราผู้จะช่วยต้านทานให้
แก่โลกสันนิวาสนั้น เป็นไม่มี... โลกสันนิวาสถูกทุกข์เสียบแทงบีบคั้น
มานาน ...โลกสันนิวาสติดใจกระหายอยู่เป็นนิตย์ . . . โลกสันนิวาสเป็น
โลกบอด ไม่มีจักษุ . . .โลกสันนิวาสมีนัยน์ตาเสื่อมไปไม่มีผู้นำ . . . โลก
สันนิวาสแล่นไปสู่ทางผิด หลงทางแล้ว ใครอื่นนอกจากเราผู้จะช่วยพา
โลกสันนิวาสนั้นมาสู่ทางอริยะ เป็นไม่มี. . .โลกสันนิวาสแล่นไปสู่ห้วง
โมหะ. ใครอื่นนอกจากเราผู้ฉะช่วยฉุดโลกสันนิวาสนั้นให้ขึ้นจากห้วง
โมหะ เป็นไม่มี . . . โลกสันนิวาสถูกทิฏฐิ 2 อย่างกลุ้มรุม. . . . โลก

สันนิวาสปฏิบัติผิดด้วยทุจริต 3 อย่าง. . .โลกสันนิวาสเต็มไปด้วยกิเลส
เครื่องประกอบ ถูกกิเลสเครื่องประกอบ 4 อย่างประกอบไว้ . . .โลก
สันนิวาสถูกกิเลสผูกไว้ด้วยเครื่องผูก 4 อย่าง . . .โลกสันนิวาสถือมั่นด้วย
อุปาทาน 4 .. .โลกสันนิวาสขึ้นสู่คติ 5 . . . โลกสันนิวาสกำหนัดอยู่ด้วย
กามคุณ 5 . . . โลกสันนิวาสถูกนิวรณ์ 5 ทับไว้ ... โลกสันนิวาสวิวาท
กันอยู่ด้วยมูลเหตุวิวาท 6 อย่าง . . . โลกสันนิวาสกำหนัดอยู่ด้วยกอง
ตัณหา 6 . . . โลกสันนิวาสถูกทิฏฐิ 6 กลุ้มรุมแล้ว . . . โลกสันนิวาสซ่าน
ไปเพราะอนุสัย 7... โลกสันนิวาสถูกสังโยชน์ 7 เกี่ยวคล้องไว้ . . .
โลกสันนิวาสฟูขึ้นเพราะมานะ 7 . . โลกสันนิวาสเวียนอยู่เพราะโลก
ธรรม 8 โลกสันนิวาสเป็นผู้ดิ่งลงเพราะมิจฉัตตะ... 8 . . . โลกสันนิวาส
ประทุษร้ายกันเพราะบุรุษโทษ 8 . . . โลกสัน นิวาสมุ่งร้ายกันเพราะ
อาฆาตวัตถุ 9 . . . โลกสันนิวาสพองขึ้นเพราะมานะ 9 อย่าง . . .โลก
สันนิวาสกำหนัดอยู่เพราะธรรมอันมีตัณหาเป็นมูล 9 . . .โลกสันนิวาส
ย่อมเศร้าหมองเพราะกิเลสวัตถุ 10 . . . โลกสันนิวาสมุ่งร้ายกันเพราะ
อาฆาตวัตถุ 10 ... โลกสันนิวาสประกอบด้วยอกุศลกรรมบถ 10 ... โลก
สันนิวาสถูกสังโยชน์ 10 เกี่ยวคล้องไว้ . . . โลกสันนิวาสเป็นผู้ดิ่งลง
เพราะมิจฉัตตะ 10 ... โลกสันนิวาสประกอบด้วยมิจฉาทิฏฐิมีวัตถุ 10 ...
โลกสันนิวาสประกอบด้วยสักกายทิฏฐิมีวัตถุ 10 . . . โลกสันนิวาสต้อง
เนิ่นช้าเพราะตัณหาเครื่องให้เนิ่นช้า 108 พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลาย

ผู้ตรัสรู้แล้ว ทรงพิจารณาเห็นว่า โลกสันนิวาสถูกทิฏฐิ 62 กลุ้มรุม
จึงทรงแผ่พระมหากรุณาไปให้หมู่สัตว์ว่า ก็เราแลเป็นผู้ข้ามได้แล้ว แต่
สัตว์โลกยังข้ามไม่ได้ เราเป็นผู้พ้นไปแล้ว แต่สัตว์โลกยังไม่พ้น
ไป เราทรมานได้แล้ว แต่สัตว์โลกยังทรมานไม่ได้ เราสงบ
แล้ว แต่สัตว์โลกยังไม่สงบ เราเป็นผู้เบาใจแล้ว แต่สัตว์โลกยัง
ไม่เบาใจ เราเป็นผู้ดับรอบแล้ว แต่สัตว์โลกยังไม่ดับรอบ ก็เรา
เป็นผู้ข้ามได้แล้ว จะช่วยให้สัตว์โลกข้ามได้ด้วย เราเป็นผู้พ้นไปแล้ว
จะช่วยให้สัตว์โลกพ้นไปด้วย เราทรมานได้แล้ว จะช่วยให้สัตว์โลก
ทรมานได้ด้วย เราเป็นผู้สงบแล้ว จะช่วยให้สัตว์โลกสงบด้วย เรา
เป็นผู้เบาใจแล้ว จะช่วยให้สัตว์โลกเบาใจด้วย เราเป็นผู้ดับรอบแล้ว จะ
ช่วยให้สัตว์โลกดับรอบด้วย พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลาย ผู้ตรัสรู้แล้ว
ทรงพิจารณาเห็นดังนี้ จึงทรงแผ่พระมหากรุณาไปในหมู่สัตว์ นี้เป็น
มหากรุณาสมาปัตติญาณของพระตถาคต.


71. อรรถกถามหากรุณาญาณนิทเทส


[285] พึงทราบวินิจฉัยในมหากรุณาญาณนิทเทสดังต่อไปนี้
บทว่า พหุเกหิ อากาเรหิ - ด้วยอาการเป็นอันมาก คือ ด้วยประการ
89 อย่างซึ่งจะกล่าวในบัดนี้