เมนู

ว่าด้วยตัณหาเรียกว่ากระแส


[855] คำว่า เป็นผู้มีกระแสอันตัดเสียแล้ว ไม่มีเครื่องผูก
ความว่า ตัณหาเรียกว่ากระแส ได้แก่ราคะ สาราคะ ฯลฯ อภิชฌา
โลภะ อกุศลมูล ตัณหากระแสนั้น เป็นกิเลสชาติอันผู้ใดละ ตัดขาด
สงบ ระงับแล้ว ทำไม่ให้ควรเกิดขึ้น เผาเสียแล้วด้วยไฟคือญาณ ผู้นั้น
เรียกว่าเป็นผู้มีกระแสอันตัดเสียแล้ว. คำว่า ไม่มีเครื่องผูก ความว่า
เครื่องผูก 7 ประการ คือ เครื่องผูกคือราคะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ
กิเลส ทุจริต เครื่องผูกเหล่านี้อันผู้ใดละ ตัดขาด สงบ ระงับแล้ว ทำ
ไม่ให้ควรเกิดขึ้น เผาเสียแล้วด้วยไฟคือญาณ ผู้นั้น เรียกว่าไม่มีเครื่องผูก
เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า เป็นผู้มีกระแสอันตัดเสียแล้ว ไม่มีเครื่องผูก
เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
ผู้ใดข้ามพ้นกามทั้งหลาย และเครื่องข้องที่ล่วงได้
โดยยากในโลก ผู้นั้นย่อมไม่เศร้าโศก ย่อมไม่เพ่งเล็ง
เป็นผู้มีกระแสอันตัดเสียแล้ว ไม่มีเครื่องผูก.

[856] กิเลสชาติที่พึงเกิดขึ้น เพราะปรารภถึงสังขารใน
กาลก่อน ท่านจงให้เหือดหายไปเสีย กิเลสชาตเครื่อง
กังวลที่พึงเกิดขึ้น เพราะปรารภถึงสังขารในภายหลัง
อย่าได้มีแก่ท่าน ถ้าท่านจักไม่ถือเอาสังขารในท่ามกลาง
ท่านจักเป็นผู้เข้าไปสงบประพฤติไป.

[857] คำว่า กิเลสชาตที่พึงเกิดขึ้น เพราะปรารภถึงสังขาร
ในกาลก่อน ท่านจงให้เหือดหายไปเสีย
ความว่า กิเลสเหล่าใดพึงเกิด