เมนู

มากแล้ว เป็นคุณชาติ หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นเบื้องหน้า มีอมตะ
เป็นที่สุด ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สัทธินทรีย์เป็นต้นนั้น ข้าพระองค์รู้
เห็น ทราบ ทำให้แจ้ง ถูกต้องแล้วด้วยปัญญา ข้าพระองค์ไม่มีความ
เคลือบแคลงสงสัยในข้อนั้นว่า สัทธินทรีย์. . .ปัญญินทรีย์ ที่บุคคลเจริญ
แล้ว ทำให้มากแล้ว เป็นคุณชาติหยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะเป็นเบื้องหน้า
มีอมตะเป็นที่สุด. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนสารีบุตร ถูกละ ๆ
ดูก่อนสารีบุตร ความจริง สัทธินทรีย์เป็นต้นนั้น ชนเหล่าใด ยังไม่รู้
ไม่เห็น ไม่ทราบ ไม่ทำให้แจ้ง ไม่ถูกต้องแล้วด้วยปัญญา ชนเหล่านั้น
พึงถึงความเชื่อต่อชนอื่นในข้อนั้นว่า สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ที่บุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว เป็นคุณชาติ หยั่งลงสู่อมตะ มีอมตะ
เป็นเบื้องหน้า มีอมตะเป็นที่สุด.
พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลง
แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปว่า
นรชนใด เป็นผู้ไม่เชื่อใคร ๆ รู้ว่านิพพาน อันปัจจัย
อะไร ๆ ทำไม่ได้ ตัดที่ต่อ กำจัดโอกาส คลายความหวัง
เสียแล้ว นรชนนั้นแล ชื่อว่าเป็นอุดมบุรุษ ดังนี้.


ว่าด้วยผู้ไม่คลายกำหนัด


คำว่า ไม่คลายกำหนัด ความว่า พาลปุถุชนทั้งหมดย่อมกำหนัด
พระเสขะ 7 จำพวก รวมทั้งกัลยาณปุถุชน ย่อมคลายกำหนัด พระอรหันต์
ย่อมไม่กำหนัด ทั้งไม่คลายกำหนัด พระอรหันต์นั้น ชื่อว่าเป็นผู้เว้น