เมนู

ที่วินิจฉัยแล้ว. คำว่า ร่าเริงอยู่ คือ เป็นผู้ยินดี หัวเราะ ร่าเริง ชอบใจ
มีความดำริบริบูรณ์ อีกอย่างหนึ่ง หัวเราะจนฟันปรากฏ เพราะฉะนั้น
จึงชื่อว่า ตั้งอยู่ในทิฏฐิเป็นที่วินิจฉัย ร่าเริงอยู่.
[567] คำว่า กล่าวว่า คนอื่นเป็นพาล ไม่ฉลาด ความว่า
กล่าว บอก พูด แสดง แถลง อย่างนี้ว่า คนอื่นเป็นพาล เลวทราม
ต่ำช้า ลามก สกปรก ต่ำต้อย ไม่ฉลาด ไม่รู้แจ้ง ไปแล้วในอวิชชา
ไม่มีญาณ ไม่มีปัญญาแจ่มแจ้ง มีปัญญาชั่ว เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า กล่าว
ว่า คนอื่นเป็นพาล ไม่ฉลาด เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัส
ตอบว่า
เจ้าทิฏฐิอาศัยธรรมเหล่านี้ คือ รูปที่เห็น เสียงที่ได้
ยิน ศีล พรต หรืออารมณ์ที่ทราบ เป็นผู้แสดงความ
ดูหมิ่นผู้อื่น และตั้งอยู่ในทิฏฐิเป็นที่วินิจฉัยแล้ว ร่าเริงอยู่
กล่าวว่า คนอื่นเป็นพาล ไม่ฉลาด.

[568] เจ้าทิฏฐิเห็นบุคคลอื่นว่าเป็นพาลด้วยเหตุใด และก็
กล่าวถึงตนว่าเป็นผู้ฉลาดด้วยเหตุนั้น เจ้าทิฏฐินั้นอวดอ้าง
ว่าตนฉลาดด้วยตนเอง ย่อมดูหมิ่นบุคคลอื่น และพูด
เช่นนั้นเหมือนกัน.


เจ้าทิฏฐิเห็นคนอื่นเป็นพาล


[569] คำว่า เจ้าทิฏฐิเห็นบุคคลอื่นว่าเป็นพาลด้วยเหตุใด
ความว่า เจ้าทิฏฐิเห็น มองเห็น แลดู เพ่งพินิจ พิจารณาซึ่งบุคคลอื่น