เมนู

[273] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า :-
สมณพราหมณ์เหล่านั้น ใคร่วาทะ เข้าไปสู่บริษัท
เป็นคู่ปรับ ย่อมมุ่งกันและกันว่าเป็นพาล สมณพราหมณ์
เหล่านั้น อาศัยสิ่งอื่นแล้วย่อมกล่าวถ้อยคำคัดค้านกัน เป็น
ผู้ใคร่ความสรรเสริญ กล่าวว่าคนเป็นคนฉลาด.


ว่าด้วยการยกวาทะ



[274] คำว่า สมณพราหมณ์เหล่านั้น ใคร่วาทะ เข้าไป
สู่บริษัท
มีความว่า คำว่า สมณพราหมณ์เหล่านั้น ใคร่วาทะ
ได้แก่ สมณพราหมณ์เหล่านั้นใคร่วาทะ ต้องการวาทะ ประสงค์วาทะ
มุ่งหมายวาทะ เที่ยวแสวงหาวาทะ คำว่า เข้าไปสู่บริษัท ได้แก่เข้าไป
หยั่งลง เข้าถึง เข้าหา ขัตติยบริษัท พราหมณบริษัท คหบดีบริษัท
สมณบริษัท เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า สมณพราหมณ์เหล่านั้น ใคร่วาทะ
เข้าไปสู่บริษัท
.
[275] คำว่า เป็นคู่ปรับ ย่อมมุ่งกันและกันว่าเป็นพาล
มีความว่า คำว่า เป็นคู่ปรับ ได้แก่ เป็นคนสองฝ่าย เป็นผู้ทำความ
ทะเลาะกันทั้งสองฝ่าย ทำความหมายมั่นกันทั้งสองฝ่าย ทำความอื้อฉาวกัน
ทั้งสองฝ่าย ทำความวิวาทกันทั้งสองฝ่าย ก่ออธิกรณ์กันทั้งสองฝ่าย มี
วาทะกนทั้งสองฝ่าย โต้เถียงกันทั้งสองฝ่าย สมณพราหมณ์เหล่านั้นย่อมมุ่ง
กันและกัน คือ ดู เห็น แลดู เพ่งดู พิจารณาดู กันและกัน โดย
ความเป็นคนพาล เป็นคนเลว เป็นคนเลวทราม เป็นคนต่ำช้า เป็นคน