เมนู

ผู้ฉลาดทั้งหลายย่อมกล่าวทัศนะที่ตนอาศัยแม้นั้นว่า
เป็นเครื่องร้อยรัด เห็นทัศนะอื่นว่าเลว เพราะฉะนั้นแหละ
ภิกษุไม่พึงอาศัยรูปที่เห็น เสียงที่ได้ยิน อารมณ์ที่ทราบ
หรือศีลและวัตร.

[159] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า :-
ภิกษุไม่พึงกำหนดทิฏฐิในโลก ด้วยญาณหรือแม้
ด้วยศีลและวัตร ไม่พึงนำเข้าไปซึ่งตนว่า เสมอเขา ไม่
พึงสำคัญตนว่าเลวกว่าเขา หรือแม้ว่าวิเศษกว่าเขา.


ว่าด้วยภิกษุไม่พึงมีทิฏฐิมานะ



[160] คำว่า ภิกษุไม่พึงกำหนดแม้ทิฏฐิในโลกด้วยญาณ
หรือแม้ด้วยศีลและวัตร
มีความว่า ภิกษุไม่พึงกำหนดซึ่งทิฏฐิ
คือไม่พึงให้เกิด ไม่พึงให้เกิดพร้อม ไม่พึงให้บังเกิด ไม่พึงให้บังเกิด
เฉพาะ ด้วยญาณในสมาบัติ 8 ด้วยญาณในอภิญญา 5 ด้วยมิจฉาญาณ ด้วย
ศีล ด้วยวัตร หรือด้วยศีลและวัตร. คำว่า ในโลก ได้แก่ ในอบายโลก
มนุษยโลก เทวโลก ขันธโลก ธาตุโลก อายตนโลก. เพราะฉะนั้น
จึงชื่อว่า ภิกษุไม่พึงกำหนดแม้ทิฏฐิในโลก ด้วยญาณหรือแม้ด้วย
ศีลและวัตร
.
[161] คำว่า ไม่พึงนำเข้าไปซึ่งตนว่า เสมอเขา มีความว่า
ไม่พึงนำไปซึ่งตนว่า เราย่อมเป็นผู้เสมอเขาด้วยชาติ ด้วยโคตร ด้วย
ความเป็นบุตรแห่งสกุล ด้วยความเป็นผู้มีรูปงาม ด้วยทรัพย์ ด้วยการ