เมนู

นั้นย่อมเป็นผู้ไม่ล่วงเลยวิวาททั้งหลาย. เพราะเหตุนั้นพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าจึงตรัสว่า :-
ชันตุชนยึดถืออยู่ในทิฏฐิทั้งหลายว่า สิ่งนี้ยอดเยี่ยม
ย่อมทำสิ่งใดให้ยิ่งในโลก ชันตุชนนั้นกล่าวสิ่งทั้งปวงอื่น
จากสิ่งนั้น ว่าเลว เพราะฉะนั้น ชันตุชนนั้นย่อมเป็นผู้ไม่
ล่วงเลยวิวาททั้งหลาย.

[151] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า :-
นรชนย่อมเห็นอานิสงส์ใดในทิฏฐิของตนก็ดี ใน
อารมณ์ที่เห็นก็ดี ในอารมณ์ที่ได้ยินก็ดี ในศีลและวัตรก็
ดี ในอารมณ์ที่ทราบก็ดี นรชนนั้นถือมั่นซึ่งทิฏฐินั้นนั่น
แหละในลัทธิของตนนั้น ย่อมเห็นสิ่งอื่นทั้งปวงโดยความ
เป็นของเลว.


ว่าด้วยอานิสงส์ในทิฏฐิ



[152] คำว่า นรชนย่อมเห็นอานิสงส์ใดในทิฏฐิของตนก็
ดี ในอารมณ์ที่เห็นก็ดี ในอารมณ์ที่ได้ยินก็ดี ในศีลและวัตรก็ดี
ในอารมณ์ที่ทราบก็ดี
มีความว่าศัพท์ว่า ยทตฺตนิ ตัดบทเป็น
ยํ อตฺตนิ ทิฏฐิเรียกว่า ตน นรชนย่อมเห็นอานิสงส์ 2 ประการ ใน
ทิฏฐิของตน คือ อานิสงส์ในชาตินี้ 1 อานิสงส์ในชาติหน้า 1.
อานิสงส์ในทิฏฐิมีในชาตินี้ เป็นไฉน ? ศาสดาเป็นผู้มีทิฏฐิอย่างใด
พวกสาวกก็เป็นผู้มีทิฏฐิอย่างนั้น พวกสาวกย่อมสักการะ เคารพ นับถือ

บูชา ยำเกรง ซึ่งศาสดาผู้มีทิฏฐิอย่างนั้น และย่อมได้ จีวร บิณฑบาต
เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารที่มีการสักการะเป็นต้นนั้นเป็นเหตุ
นี้ชื่อว่า อานิสงส์ในทิฏฐิมีในชาตินี้.
อานิสงส์ในทิฏฐิมีในชาติหน้า เป็นไฉน ? นรชนย่อมหวังผลใน
อนาคตว่า ทิฏฐินี้ควรเพื่อความเป็นนาค เป็นครุฑ เป็นยักษ์ เป็นอสูร
เป็นคนธรรพ์ เป็นมหาราช เป็นพระอินทร์ เป็นพรหม หรือเป็นเทวดา
ทิฏฐินี้เหมาะสมเพื่อความหมดจด หมดจดวิเศษ หมดจดรอบ พ้น พ้น-
วิเศษ พ้นรอบ สัตว์ทั้งหลายย่อมหมดจด หมดจดวิเศษ หมดจดรอบ
พ้น พ้นวิเศษ พ้นรอบ ด้วยทิฏฐินี้ เราจักหมดจด หมดจดวิเศษหมด
จดรอบ พ้น พ้นวิเศษ พ้นรอบ ด้วยทิฏฐินี้ ดังนี้ นี้ชื่อว่า อานิสงส์
ในทิฏฐิมีในชาติหน้า
นรชนย่อมเห็นอานิสงส์ในทิฏฐิของตน 2 ประ-
การนี้.
นรชนย่อมเห็นอานิสงส์ 2 ประการ แม้ในความหมดจดด้วยอารมณ์
ที่เห็น คือ อานิสงส์มีในชาตินี้ 1 อานิสงส์มีในชาติหน้า 1 ย่อมเห็น
อานิสงส์ 2 ประการ แม้ในความหมดจดด้วยอารมณ์ที่ได้ยิน ย่อมเห็น
อานิสงส์ 2 ประการ แม้ในความหมดจดด้วยศีล ย่อมเห็นอานิสงส์ 2
ประการ แม้ในความหมดจดด้วยวัตร ย่อมเห็นอานิสงส์ 2 ประการ แม้
ในความหมดจดด้วยอารมณ์ที่ทราบ คือ อานิสงส์มีในชาตินี้ 1 อานิสงส์
มีในชาติหน้า 1.
อานิสงส์ไม่ในความหมดจดด้วย อารมณ์ที่ทราบ มีในชาตินี้เป็นไฉน ?

ศาสดาเป็นผู้มีทิฏฐิอย่างใด พวกสาวกก็เป็นผู้มีทิฏฐิอย่างนั้น ฯลฯ นั้นชื่อ
ว่าอานิสงส์ในความหมดจดด้วยอารมณ์ที่ทราบมีในชาตินี้.
อานิสงส์ในความหมดจดด้วยอารมณ์ที่ทราบ มีในชาติหน้า เป็น
ไฉน. นรชนนั้นย่อมหวังผลในอนาคตว่า ทิฏฐินี้ควรเพื่อความเป็นนาค
ฯลฯ นี้ชื่อว่าอานิสงส์ในความหมดจดด้วยอารมณ์ที่ทราบมีในชาติหน้า
นรชนย่อมเห็น คือแลเห็น เหลียวเห็น เล็งเห็น พิจารณาเห็น อานิสงส์
2 ประการเหล่านี้คำนี้ แม้ในความหมดจดด้วยอารมณ์ที่ทราบ เพราะ
ฉะนั้นจึงชื่อว่า นรชนย่อมเห็นอานิสงส์ใด ในทิฏฐิของตนก็ดี ใน
อารมณ์ที่เห็นก็ดี อารมณ์ที่ได้ยินก็ดี ในศีลและวัตรก็ดี ใน
อารมณ์ที่ทราบก็ดี
.
[153] คำว่า นรชนนั้นถือมั่นทิฏฐินั้นนั่นแหละในลัทธิ
ของตนนั้น
มีความว่า คำว่า ตเทว ได้แก่ ซึ่งทิฏฐินั้น. คำว่า ตตฺถ
ได้แก่ ในทิฏฐิของตน ในความควรของตน ในความชอบใจของตน ใน
ลัทธิของตน คำว่า ถือมั่น ได้แก่ ถือ ถือเอา รับเอา ยึดมั่น ถือมั่น
ว่า สิ่งนี้ยอดเยี่ยม เลิศ ประเสริฐ วิเศษ เป็นใหญ่ สูงสุด บวร เพราะ
ฉะนั้นจึงชื่อว่า นรชนนั้นถือมั่นทิฏฐินั้นนั่นแหละ ในลัทธิของ
ตนนั้น
.
[154] คำว่า ย่อมเห็นสิ่งอื่นทั้งปวงโดยความเป็นของเลว
มีความว่า นรชนนั้นย่อมเห็น คือ แลเห็น เหลียวเห็น เล็งเห็น พิจารณา
เห็น ซึ่งศาสดา ธรรมที่ศาสดาบอก หมู่คณะ ทิฏฐิ ปฏิปทา มรรคอื่น
โดยความเป็นของเลว เลวทราม ต่ำช้า ลามก สกปรก ต่ำต้อย เพราะ

ฉะนั้นจึงชื่อว่า ย่อมเห็นสิ่งอื่นทั้งปวงโดยความเป็นของเลว เพราะ
เหตุนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า :-
นรชนย่อมเห็นอานิสงส์ใดในทิฏฐิของตนก็ดี ใน
อารมณ์ที่เห็นก็ดี ในอารมณ์ที่ได้ยินก็ดี ในศีลวัตรก็ดี
ในอารมณ์ที่ทราบก็ดี นรชนนั้น ถือมั่นทิฏฐินั้นนั่นแหละ
ในลัทธิของตนนั้น ย่อมเห็นสิ่งอื่นทั้งปวงโดยความเป็น
ของเลว.

[155] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า :-
ผู้ฉลาดทั้งหลายย่อมกล่าวทัศนะที่ตนอาศัยแม้นั้น
ว่า เป็นเครื่องร้อยรัด เห็นทัศนะอื่นว่าเลว เพราะฉะนั้น
แหละ ภิกษุไม่พึงอาศัยรูปที่เห็น เสียงที่ได้ยิน อารมณ์
ที่ทราบ หรือศีลและวัตร.


ว่าด้วยทัศนะของผู้ฉลาด



[156] คำว่า ผู้ฉลาดทั้งหลายย่อมกล่าวทัศนะที่ตนอาศัย
แม้นั้นว่า เป็นเครื่องร้อยรัด
มีความว่า คำว่า ผู้ฉลาด ได้แก่ ผู้ฉลาด
ในขันธ์ ฉลาดในธาตุ ฉลาดในอายตนะ ฉลาดในปฏิจจสมุปบาท ฉลาด
ในสติปัฏฐาน ฉลาดในสัมมัปปธาน ฉลาดในอิทธิบาท ฉลาดในอินทรีย์
ฉลาดในพละ ฉลาดในโพชฌงค์ ฉลาดในมรรค ฉลาดในผล ฉลาดใน
นิพพาน ผู้ฉลาดเหล่านั้นย่อมกล่าวอย่างนี้ คือย่อมกล่าว บอก พูด
แสดง แถลง อย่างนี้ว่า ทัศนะนั้นเป็นกิเลสเครื่องร้อยรัด เป็นกิเลส