เมนู

ได้ยินเสียงบ้าง โดยความหมดจดด้วยศีลบ้าง โดยความหมดจดด้วยวัตรบ้าง
โดยความหมดจดด้วย อารมณ์ที่ทราบบ้าง. เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า พราหมณ์
ไม่กล่าวความหมดจดในอารมณ์ ที่เห็น อารมณ์ที่ได้ยิน ศีลและ
วัตร หรืออารมณ์ที่ทราบ โดยมรรคอื่น
.

ว่าด้วยการละบุญบาป



[121] คำว่า พราหมณ์นั้นผู้ไม่เข้าไปติดในบุญและบาป มี
ความว่า กุสลาภิสังขารอันให้ปฏิสนธิในไตรธาตุ (กามธาตุ รูปธาตุ
อรูปธาตุ) อย่างใดอย่างหนึ่ง เรียกว่าบุญ. อกุศลทั้งหมดเรียกว่าบาปไม่
ใช่บุญ ปุญญาภิสังขาร อปุญญาภิสังขาร อาเนญชาภิสังขาร เป็นสภาพ
อันพราหมณ์ละเสียแล้ว มีมูลรากอันตัดขาดแล้ว ทำให้ตั้งอยู่ไม่ได้ดุจตาล
ยอดด้วน ทำให้ถึงความไม่มีในภายหลัง มีความไม่เกิดขึ้นต่อไปเป็น
ธรรมดา ในกาลใดในกาลนั้น พราหมณ์นั้นชื่อว่าย่อมไม่ติด ไม่ติดพัน
ไม่เข้าไปติด เป็นผู้ไม่ติด ไม่ติดพัน ไม่เข้าไปติดแล้ว เป็นผู้ออกไป
สละเสีย พ้นขาด ไม่เกี่ยวข้องแล้ว ในบุญและบาป เป็นผู้มีจิตกระทำให้
ปราศจากแดนกิเลสอยู่ ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้. เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า
พราหมณ์นั้นผู้ไม่เข้าไปติดในบุญและบาป.

ว่าด้วยการละตน



[122] คำว่า ละเสียซึ่งตนเรียกว่า เป็นผู้ไม่ทำเพิ่มเติมอยู่
ในโลกนี้
มีความว่า ละเสียซึ่งตน คือละทิฏฐิที่ถือว่าเป็นตน หรือละ