เมนู

ตถาคตในอรรถว่ามีพระวาจาที่แท้จริง



พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า ตถาคต เพราะมีพระวาจาที่แท้
จริง เป็นอย่างไร ?
ตลอดราตรีใดที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งบนอปราชิตบัลลังก์ ณ
โพธิมณฑลสถาน ทรงย่ำยีมารทั้ง 4 แล้ว ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิ
ญาณ และตลอดราตรีใดที่พระองค์เสด็จปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพาน
ธาตุ ในระหว่างไม้สาละทั้งคู่ ในระหว่างนี้ คือในกาลประมาณ 45
พรรษา พระวาจาใดที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ในปฐมโพธิกาลก็ดี ใน
มัชฌิมโพธิกาลก็ดี ในปัจฉิมโพธิกาลก็ดี คือสุตตะ เคยยะ ฯลฯ เวทัลละ,
พระวาจานั้นทั้งหมด อันใคร ๆ ติเตียนไม่ได้ ไม่ขาด ไม่เกิน โดยอรรถะ
และโดยพยัญชนะ บริบูรณ์โดยอาการทั้งปวง บรรเทาความเมา คือ ราคะ
โทสะ โมหะ, ในพระวาจานั้นไม่มีความพลั้งพลาดแม้เพียงปลายขนทราย
พระวาจานั้นทั้งหมด ย่อมแท้จริงอย่างเดียว ไม่ผันแปร ไม่กลายเป็น
อย่างอื่น ดุจประทับไว้ด้วยตราอันเดียวกัน ดุจตวงไว้ด้วยทะนานใบเดียว
กัน และดุจชั่งไว้ด้วยตาชั่งอันเดียวกัน. ด้วยเหตุนั้นจึงตรัสว่า :- ดูก่อน
จุนทะ ตลอดราตรีใดที่ตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ และตลอด
ราตรีใดปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ในระหว่างนี้ คำใดที่
ตถาคตกล่าว พูด แสดง คำนั้นทั้งหมด ย่อมเป็นคำแท้อย่างเดียว ไม่
เป็นอย่างอื่น เหตุนั้นจึงได้นามว่า ตถาคต ดังนี้ ก็ในที่นี้ ศัพท์ คต
มีเนื้อความเท่า คท แปลว่า คำพูด. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า
ตถาคต เพราะมีพระวาจาแท้จริง เป็นอย่างนี้.