เมนู

11. สาธินราชชาดก



ว่าด้วยพระเจ้าวิเทหราชประพาสดาวดึงส์


[1994] อัศจรรย์จริงหนอ ขนพองสยองเกล้า
เกิดขึ้นแล้วในโลก รถทิพย์ได้ปรากฏแก่พระเจ้า
วิเทหราชผู้เรืองยศ.

[1995] มาตลีเทพบุตรเทพสารถีผู้มีฤทธิ์มาก
ได้เชื้อเชิญพระเจ้าวิเทหราชผู้ครองมิถิลานครว่า ข้าแต่
พระราชาผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ผู้เป็นใหญ่ทั่วทิศ
ขอเชิญพระองค์เสด็จขึ้นทรงรถนี้เถิด ด้วยว่าทวยเทพ
ชนดาวดึงส์พร้อมด้วยสมเด็จอมรินทราธิราช ใคร่จะ
เห็นพระองค์ ทวยเทพเหล่านั้น ประชุมพร้อมกันอยู่
ณ สุธรรมาเทวสภา ลำดับนั้นแล พระเจ้าวิเทหราช
พระนามว่าสาธินะ ผู้ครองมิถิลานคร เสด็จทรงรถ
อันเทียมด้วยม้าพันหนึ่งได้เสด็จไปยังสำนักของเทวดา
ทั้งหลาย (พระมหาราชาทรงประทับยืนบนทิพยาน
อันเทียมด้วยม้าพันหนึ่ง ซึ่งม้าพาลากไป เสด็จไปอยู่
ได้ทอดพระเนตรเห็นเทวสภานี้) ทวยเทพเห็นพระ-
ราชาเสด็จมาดังนั้น ก็พากันชื่นชมยินดีกระทำ
ปฏิสัณฐานเชื้อเชิญว่า ข้าแต่พระมหาราชา พระองค์
เสด็จมาดีแล้ว อนึ่ง ชื่อว่าพระองค์มิได้เสด็จมาร้าย
ข้าแต่พระราชาผู้แสวงหาคุณใหญ่ ขอพระองค์ทรง

ประทับใกล้ ๆ กับท้าวเทวราชเสียแต่บัดนี้เถิด ฝ่าย
ท้าววาสวสักกเทวราชทรงชื่นชมยินดี เชื้อเชิญพระเจ้า
สาธินราชผู้ครองมิถิลานครด้วยทิพยกามารมณ์และ
อาสนะว่า ข้าแต่พระราชฤาษี เป็นการดีแล้วที่พระองค์
เสด็จมาถึงที่อยู่ของทวยเทพ ผู้บันดาลให้เป็นไปใน
อำนาจได้ ขอเชิญพระองค์ประทับอยู่ในหมู่ทวยเทพ
ผู้ให้สำเร็จทิพยกามารมณ์ทุกอย่าง ขอเชิญพระองค์
ทรงเสวยกามคุณ อันมิใช่ของมนุษย์ในหมู่ทวยเทพ
ชาวดาวดึงส์เถิด.

[1996] ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐกว่าจอมเทพ
เมื่อก่อนหม่อมฉันมาถึงสวรรค์แล้ว ย่อมยินดีด้วยการ
ฟ้อนรำขับร้องและเครื่องประโคมทั้งหลาย บัดนี้
หม่อมฉันไม่ยินดีอยู่ในสวรรค์เลย จะหมดอายุ หรือ
ใกล้จะตายหรือว่าหม่อมฉันหลงใหลไป.

[1997] ข้าแต่พระองค์ผู้แกล้วกล้ากว่านรชน
ผู้ประเสริฐ พระชนมายุของพระองค์ยังไม่หมดสิ้น
ความสิ้นพระชนม์ก็ยังห่างไกล อนึ่ง พระองค์จะได้
ทรงหลงใหลไปก็หาไม่ แต่ว่าวิบากแห่งบุญกุศลของ
พระองค์ ที่ได้ทรงเสวยในเทวโลกนี้มีน้อยไป ข้าแต่
พระราชาผู้ประเสริฐ ผู้เป็นใหญ่ทั่วทิศ ขอเชิญ
พระองค์ประทับอยู่ เสวยกามคุณอันมิใช่ของมนุษย์
ในหมู่ทวยเทพชาวดาวดึงส์ ด้วยเทวานุภาพต่อไปเถิด.

[1998] ขอยืมยานเขามาขับ ขอยืมทรัพย์เขามา
ใช้ฉันใด การที่ได้เสวยความสุข เป็นความสุขที่ผู้อื่น
ยื่นให้ ก็เปรียบกันได้ฉะนั้นแล ก็แลการได้เสวย
ความสุข โดยเป็นความสุขที่ผู้อื่นยื่นให้ หม่อมฉัน
ไม่ปรารถนาเลย บุญทั้งหลายอันหม่อมฉันทำเองแล้ว
นั้น ย่อมเป็นทรัพย์อันอาจติดตามหม่อมฉันไปได้
หม่อมฉันไปในมนุษยโลกแล้ว จักได้ทำกุศลให้มาก
ที่บุคคลกระทำแล้วได้รับความสุข และไม่ต้องเดือดร้อน
ในภายหลัง ด้วยทาน ด้วยการประพฤติสม่ำเสมอ
ด้วยการสำรวม ด้วยการฝึกตน.

[1999] ที่ตรงนี้เป็นไร่นา ที่ตรงนี้ตรงร่องน้ำ
ตรงดี ที่ตรงนี้เป็นภูมิภาค มีหญ้าแพรกเขียวสะพรั่ง
ที่ตรงนี้เป็นแม่น้ำไหลอยู่ไม่ขาดสาย ที่ตรงนี้เป็น
สระโบกขรณีอันน่ารื่นรมย์ มีฝูงนกจักรพรากร้องเสียง
ระงม เปี่ยมไปด้วยน้ำใสสะอาด ดารดาษไปด้วยดอก
ปทุมและดอกอุบล พวกเข้าเฝ้าและนักสนมพากันยึด
ถือสถานเหล่านี้ว่าเป็นของเรา เขาเหล่านั้นพากันไป
เสียทิศทางใดหนอ ดูก่อนพ่อนารทะ ไร่นาเหล่านั้น
ภูมิภาคตรงนั้น และอุปจารแห่งสวนและป่าไม้ยังคงมี
อยู่ดังเดิม เมื่อเราไม่เห็นหมู่ชนเหล่านั้น ทิศทั้งหลาย
ก็ปรากฏว่าว่างเปล่าแก่เรา.

[2000] วิมานทั้งหลายอันโอภาสทั่วทั้งสี่ทิศ
ฉันได้เห็นแล้วเฉพาะพระพักตร์ของท้าวสักกเทวราช
และเฉพาะหน้าของทวยเทพชาวไตรทศ ภพที่ฉันอยู่ก็
เป็นทิพย์ กามทั้งหลายอันมิใช่ของมนุษย์ฉันได้บริโภค
แล้ว ในทวยเทพชาวไตรทศ ภพที่ฉันอยู่ก็เป็นทิพย์
กามทั้งหลายอันมิใช่ของมนุษย์ฉันได้บริโภคแล้ว ใน
ทวยเทพชาวดาวดึงส์ ผู้ให้สำเร็จสิ่งที่น่าปรารถนา
ทุกอย่าง ฉันนั้นละสมบัติเช่นนั้นเสียแล้วมาในมนุษย-
โลกนี้ เพื่อต้องการทำบุญเท่านั้น ฉันจักประพฤติแต่
ธรรมเท่านั้น ฉันไม่มีความต้องการด้วยราชสมบัติ
ฉันจัดดำเนินไปตามทางที่ท่านผู้ไม่มีอาชญาพากันท่อง
เที่ยวไป อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ซึ่ง
เป็นทางสำหรับไปของท่านผู้มีวัตรงามทั้งหลาย.

จบสาธินราชชาดกที่ 11

อรรถกถาสาธินราชชาดก


พระศาสดา เมื่อเสด็จประทับ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงพระปรารภ
พวกอุบาสกรักษาอุโบสถ ตรัสเรื่องนี้มีคำขึ้นต้นว่า อพฺภูโต วต โลกสฺมึ
ดังนี้.
มีเรื่องย่อว่า ครั้งนั้นพระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนอุบาสกทั้งหลาย บัณฑิต
แต่ครั้งก่อน อาศัยอุโบสถกรรมของตน ไปสู่เทวโลกอยู่สิ้นกาลนานด้วยสรีระ
แห่งมนุษย์นั่นแล ทรงนำอดีตนิทานมา ดังต่อไปนี้
ในอดีตกาล พระราชาทรงพระนามสาธินะ ทรงครองราชสมบัติโดย
ธรรม ณ พระนครมิถิลา ท้าวเธอได้สร้างโรงทานไว้ 6 แห่ง คือ ที่ประตู
พระนครทั้ง 4 ที่กลางพระนคร และที่ประตูราชนิเวศน์ ทรงบำเพ็ญ
มหาทาน กระทำชมพูทวีปทุกแห่งหน ให้เก็บไถได้ พระราชทานทรัพย์
ประมาณหกแสนกระษาปณ์ เป็นราชทรัพย์ที่ทรงใช้จ่ายทุก ๆ วัน ทรง
รักษาศีล 5 ทรงถืออุโปสถ. ชาวแว่นแคว้นเล่าก็พากันตั้งอยู่ในโอวาทของท้าว
เธอ ต่างกระทำบุญมีให้ทานเป็นต้น ตายแล้ว ๆ บังเกิดในเมืองเทวดาทั้งนั้น
ฝูงเทพพากันนั่งแน่นเทวสภาชื่อสุธรรมา ต่างพรรณนาพระคุณมีศีลเป็นต้นของ
พระราชาเท่านั้น. เทพที่เหลือฟังเรื่องนั้นแล้ว ก็มีปรารถนาที่จะเห็นพระราชา
ไปตาม ๆ กัน. ท้าวสักกเทวราช ทรงทราบใจของเทพเหล่านั้น ตรัสว่า
พวกเธอปรารถนาจะเห็นพระเจ้าสาธินราชหรือ พวกเทพพากันกราบทูลว่า
พระเจ้าข้า ข้าแต่พระผู้เป็นเทพเจ้า. ท้าวเธอจึงตรัสสั่งเทพบุตรมาตลีว่า เธอ
จงไปจัดเวชยันตรถ รับพระเจ้าสาธินราชมา. เทพบุตรมาตลีรับเทวบัญชาว่า
สาธุ แล้วจัดรถไปสู่แคว้นวิเทหะ ครั้งนั้นเป็นวันเพ็ญ เวลาที่พวกมนุษย์บริโภค