เมนู

10. มหาวาณิชชาดก



ว่าด้วยโลภมากจนตัวตาย


[1990] พวกพ่อค้าพากันมาจากรัฐต่าง ๆ กระทำ
การประชุมกันในเมืองพาราณสี ตั้งพ่อค้าคนหนึ่งให้เป็น
หัวหน้า แล้วพากันขนเอาทรัพย์กลับไป พ่อค้าเหล่านั้น
มาถึงแดนกันดาร ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำ ได้เห็นต้นไทร
ใหญ่มีร่มเงาเย็นสบาย น่ารื่นรมย์ใจ ก็พากันเข้าไปนั่ง
พักที่ร่มต้นไทรนั้น พ่อค้าทั้งหลายเป็นคนโง่เขลา ถูก
โมหะครอบงำ คิดร่วมกันว่า ไม้ต้นนี้บางทีจะมีน้ำ
ไหลซึมอยู่ เชิญพวกเราเหล่าพ่อค้ามาช่วยกันตัดกิ่ง
ข้างทิศตะวันออกแห่งต้นไม้นั้นดูทีเถิด พอกิ่งนั้นถูก
ตัดขาดออก น้ำใสไม่ขุ่นมัวไหลออกมา พ่อค้าเหล่านั้น
ก็พากันอาบและดื่ม ที่สายน้ำนั้น จนสมปรารถนา
พ่อค้าทั้งหลาย ผู้โง่เขลา ถูกโมหะครอบงำ ร่วมคิด
กันเป็นครั้งที่ 2 ว่า ขอให้พวกเราช่วยกันตัดกิ่ง
ข้างทิศใต้แห่งต้นไม้นั้นอีกเถิด พอกิ่งนั้นถูกตัดขาด
ออก ข้าวสาลี เนื้อสุก ขนมถั่ว ซึ่งมีสีเหมือนข้าว-
ปายาสปราศจากน้ำ แกงอ่อมปลาดุก ก็ไหลออกมา
มากมาย พ่อค้าเหล่านั้นพากันบริโภคเคี้ยวกินจนสม
ปรารถนา พ่อค้าทั้งหลายผู้โง่เขลา ถูกโมหะครอบงำ
ร่วมคิดกันเป็นครั้งที่ 3 ว่า ขอให้พวกเราช่วยกันตัด

กิ่งข้างทิศตะวันตกแห่งต้นไม้นั้นอีกเถิด พอกิ่งนั้นถูก
ตัดขาดออก เหล่านางนารีแต่งตัวงามสมส่วน มีผ้า
และเครื่องอารมณ์อันวิจิตร ใส่ต่างหูแก้วมณี พากัน
ออกมา นารีทั้งหลายต่างแยกกันบำเรอพ่อค้า คน
ละนาง นารี 25 นาง ต่างก็แวดล้อมพ่อค้า ผู้เป็น
หัวหน้าอยู่โดยรอบ ที่ร่มแห่งต้นไทรนั้น พ่อค้าเหล่านั้น
แวดล้อมด้วยนารีเหล่านั้นจนสมปรารถนา พ่อค้า
ทั้งหลายผู้โง่เขลา ถูกโมหะครอบงำ ร่วมคิดเป็นครั้ง
ที่ 4 ว่า ขอให้พวกเราช่วยกันตัดกิ่งข้างทิศเหนือแห่ง
ต้นไม้อีกเถิด พอกิ่งนั้นถูกตัดขาดออก แก้วมุกดา
แก้วไพฑูรย์ เงิน ทอง เครื่องประดับมือ เครื่องปูลาด
ผ้ากาสิกพัสตร์และผ้ากัมพล ชื่ออุทธิยะ ก็พรั่งพรู
ออกมาเป็นอันมาก พ่อค้าเหล่านั้นพากันขนบรรทุก
ใส่ในเกวียนเหล่านั้นจนสมปรารถนา พ่อค่าเหล่านั้น
เป็นคนโง่เขลา ถูกโมหะครอบงำ ร่วมคิดกันเป็น
ครั้งที่ 5 ว่า ขอให้พวกเราช่วยกันตัดโคนต้นไม้นั้น
เสียทีเดียว บางทีจะได้ของมากไปกว่านี้อีก ทันใดนั้น
นายกองเกวียนจึงลุกขึ้น ประคองอัญชลีร้องขอว่า
ดูก่อนพ่อค้าทั้งหลาย ต้นไทรทำผิดอะไรหรือ (จึงพา
กันจะทำร้าย) ขอให้ท่านจงมีความเจริญเถิด ดูก่อน
พ่อค้าทั้งหลาย กิ่งทางทิศตะวันออกก็ให้น้ำ กิ่งทาง
ทิศใต้ก็ให้ข้าวและน้ำ กิ่งทางทิศตะวันตก ก็ให้นาง

นารี และกิ่งทางทิศเหนือก็ให้สิ่งที่ปรารถนาทุกอย่าง
ต้นไทรทำผิดอะไรหรือ (จึงพากันจะทำร้าย) ขอให้
ท่านจงมีความเจริญเถิด บุคคลพึงนั่งหรือนอนที่ร่มเงา
แห่งต้นไม้ใด ก็ไม่ควรหักรานก้านแห่งต้นไม้นั้น
เพราะประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวทราม แต่พ่อค้า
เหล่านั้นมากด้วยกัน ไม่เชื่อถือถ้อยคำนายกองเกวียน
ผู้เดียว ต่างก็ถือขวานที่ลับแล้ว พากันเข้าไปหมายจะ
ตัดต้นไทรนั้นที่โคน.

[1991] ทันใดนั้น นาคทั้งหลายก็พากันออกไป
พวกสวมเกราะ 25 พวกถือธนู 300 พวกถือโล่
6,000.

[1992] ท่านทั้งหลายจงจับพวกนี้มัดฆ่าเสีย
อย่าไว้ชีวิตเลย เว้นไว้แต่นายกองเกวียนเท่านั้น
นอกนั้นจงสังหารมันทุกคนให้เป็นภัสมธุลีไป.

[1993] เพราะเหตุนี้แหละ บุรุษผู้เป็นบัณฑิต
เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ของตน ไม่ควรลุอำนาจแห่ง
ความโลภ พึงกำจัดใจอันประกอบด้วยความโลภเสีย
ภิกษุรู้โทษอย่างนี้ และรู้ตัณหาว่าเป็นแดนเกิดแห่งทุกข์
พึงเป็นผู้ปราศจากตัณหา ไม่มีความถือมั่น พึงเป็นผู้
มีสติละเว้นโดยรอบเถิด.

จบมหาวาณิชชาดกที่ 10

อรรถกถามหาวาณิชชาดก


พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงพระปรารภ
พวกพ่อค้าชาวพระนครสาวัตถี ตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า วาณิชา
สมิตึ กตฺวา
ดังนี้.
เรื่องมีว่า พ่อค้าเหล่านั้นเมื่อจะไปค้าขาย ถวายมหาทานแด่พระศาสดา
ดำรงมั่นในสรณะและศีล กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าพวกข้าพระองค์
จักไม่มีโรคกลับมาได้ จักขอบังคมพระบาทยุคลของพระองค์อีกพระเจ้าข้า ออก
เดินทางไปกับเกวียน 500 เล่ม ถึงแดนกันดาร กำหนดหนทางไม่ได้ เลย
พากันหลงทางท่องเที่ยวไปในป่า ขาดน้ำขาดอาหาร เห็นต้นไทรซึ่งนาคยึด
ครองต้นหนึ่ง ก็ชวนกันปลดเกวียน นั่งที่โคนต้น. พวกนั้นเห็นไทรใบเขียว
ชอุ่ม ประหนึ่งตะไคร้น้ำ กิ่งไทรเล่าก็เป็นเหมือนอิ่มด้วยน้ำ จึงคิดกันว่า
ในต้นไม้นี้ ปรากฏเหมือนมีน้ำเอิบอาบ พวกเราตัดกิ่งตะวันออกของต้นไม้นี้
เถอะเพื่อจะหลั่งน้ำดื่มให้ได้ ครั้นแล้วคนหนึ่งก็ขึ้นสู่ต้นไม้ตัดกิ่งขาด. ท่อน้ำ
ขนาดลำตาลไหลพรั่ง พวกนั้นพากันอาบพากันดื่ม ณ ที่นั้น แล้วพากันตัดกิ่ง
ทางใต้. โภชนะมีรสเลิศต่าง ๆ พรั่งพรูออกจากนั้น พากันบริโภค แล้วตัดกิ่ง
ตะวันตก. เหล่าสตรีผู้ตกแต่งร่างกายแล้ว พากันออกมาจากกิ่งนั้น พากัน
อภิรมย์กับหมู่สตรีนั้น แล้วตัดกิ่งทางเหนือ. แก้ว 7 ประการหลั่งไหลออกจาก
กิ่งนั้น พากันเก็บแก้วเหล่านั้นบรรทุกเต็มเกวียนทั้ง 500 เล่ม กลับมาสู่
พระนครสาวัตถี เก็บงำทรัพย์แล้ว ชวนกันถือของหอมและมาลาเป็นต้น ไปสู่
พระมหาวิหารเชตวัน ถวายบังคมพระศาสดาบูชาแล้วนั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง
ฟังธรรมกถาแล้ว ทูลนิมนต์ถวายมหาทานในวันรุ่งขึ้น พากันให้ส่วนบุญว่า