เมนู

2. ภัททสาลชาดก



ว่าด้วยการบำเพ็ญประโยชน์แก่ญาติ



[1613] ท่านเป็นใคร มีผ้าอันสะอาดหมดจด
มายืนอยู่บนอากาศ เพราะเหตุไร น้ำตาของท่านจึงไหล
ภัยมาถึงท่านแต่ที่ไหน.

[1614] ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ เมื่อหม่อม
ฉันได้รับการบูชาอยู่ 60,000 ปี ชนทั้งหลายรู้จัก
หม่อมฉันว่า ภัททสาละ ในแว่นแคว้นของพระองค์
นี้แล.

[1615] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นใหญ่ในทิศ พระ-
ราชาพระองค์ก่อน ๆ เมื่อสร้างพระนคร อาคาร และ
ปราสาทต่าง ๆ พระราชาเหล่านั้นมิได้ดูหมิ่นหม่อมฉัน
เลย พระราชาเหล่านั้นบูชาหม่อมฉัน ฉันใด แม้
พระองค์ก็จงบูชาหม่อมฉัน ฉันนั้นเถิด.

[1616] ก็ข้าพเจ้ามิได้เห็นต้นไม้อื่นที่จะใหญ่โต
เหมือนท่าน โดยประมาณ ท่านเป็นไม้งามแต่กำเนิด
ด้วยย่านและปริมณฑล.

[1617] ข้าพเจ้าจะให้นายช่างทำปราสาทมีเสา
เดียว เป็นที่รื่นรมย์ใจ ข้าพเจ้าจะเชื้อเชิญท่านมาอยู่ที่
ปราสาทนั้น ดูก่อนเทวดา ชีวิตของท่านจักยั่งยืน.

[1618] ถ้าพระองค์ทรงดำริอย่างนี้ ก็จำต้อง
พลัดพรากจากต้นรังอันเป็นร่างกายของหม่อมฉัน
พระองค์จงตัดหม่อมฉันทำเป็นท่อน ๆ ให้มากเถิด.

[1619] พระองค์จงตัดปลายก่อน แล้วจงตัด
ท่อนกลาง ภายหลังจึงตัดที่โคน เมื่อหม่อมฉันถูกตัด
อย่างนี้ ถึงจะตายลงก็ไม่มีทุกข์.

[1620] ราชบุรุษตัดมือเเละเท้า ตัดหูและจมูก
ภายหลังจึงตัดศีรษะของโจรผู้เป็นอยู่ ความตายนั้น
ชื่อว่าตายเป็นทุกข์.

[1521] ดูก่อนต้นรังที่เป็นเจ้าแห่งป่า เขาตัด
เป็นท่อน ๆ เป็นสุขหรือหนอ ท่านมีเหตุอะไร มั่นใจ
อย่างไร จึงปรารถนาให้ตัดเป็นท่อน ๆ.

[1622] ข้าแต่มหาราช หม่อมฉันยึดมั่นเหตุ
อันใด อันเป็นเหตุประกอบด้วยธรรม ปรารถนาให้
ตัดเป็นท่อน ๆ ขอพระองค์จงสดับเหตุอันนั้น.

[1623] หมู่ญาติของหม่อมฉัน เจริญอยู่ด้วย
ความสุข เกิดแล้วใกล้ต้นรังข้างหม่อมฉัน หม่อมฉัน
พึงเข้าไปเบียดเบียนหมู่ญาติเหล่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้
หม่อมฉันชื่อว่าเข้าไปสั่งสมสิ่งที่มิใช่ความสุขให้แก่คน
เหล่าอื่น เหตุนั้น หม่อมฉันจึงปรารถนาให้ตัดเป็น
ท่อน ๆ.

[1624] ดูก่อนต้นรังที่เป็นเจ้าแห่งป่า ท่านย่อม
คิดสิ่งที่ควรคิด ท่านเป็นผู้ปรารถนาประโยชน์แก่หมู่
ญาติ ดูก่อนสหาย ข้าพเจ้าให้อภัยแก่ท่าน.

จบภัททสาลชาดกที่ 2

อรรถกถาภัททสาลชาดก


พระศาสดา เมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรง
พระปรารภ การบำเพ็ญประโยชน์แก่พระญาติ ตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้น
ว่า กา ตฺวํ สุทฺเธหิ วตฺเถหิ ดังนี้.
เรื่องพิสดารมีว่า การฉันเป็นประจำของภิกษุ 500 รูป เป็นไปอยู่ใน
นิเวศน์ของท่านอนาถปิณฑิกะ ณ พระนครสาวัตถี โดยทำนองนั้นในนิเวศน์
ของนางวิสาขา และในพระราชวังของพระเจ้าโกศล. ก็ในพระราชนิเวศน์นั้น
เจ้าหน้าที่ย่อมถวายโภชนะอันมีรสเลิศต่าง ๆ โดยแท้ ถึงอย่างนั้น ใคร ๆ ที่เป็น
ผู้คุ้นเคยกันของภิกษุไม่มีอยู่เลย. เหตุนั้น พวกภิกษุจึงไม่ค่อยฉันในพระราช-
นิเวศน์ ภิกษุเหล่านั้นรับภัตพากันไปสู่เรือนของท่านอนาถปิณฑิกะหรือนาง
วิสาขา หรือมิฉะนั้นก็เรือนของคนที่คุ้นเคยกันอื่น ๆ แล้วจึงฉัน. วันหนึ่ง
พระราชาทรงส่งบรรณาการที่คนนำมา ไปสู่โรงฉันว่า พวกเจ้าจงถวายแก่
พวกภิกษุ ครั้นราชบุรุษกราบทูลว่า ในโรงฉันไม่มีภิกษุ ตรัสสั่งถามว่า
ท่านไปที่ไหนเสียเล่า ทรงสดับว่า พากันไปนั่งฉันที่เรือนของคนที่คุ้นเคย
แห่งตน พระเจ้าข้า พอเสวยพระกระยาหารเช้าเสร็จ เสด็จไปสำนักพระศาสดา