เมนู

11. มัฏฐกุณฑลิชาดก



ว่าด้วยคนร้องไห้ถึงคนตายเป็นคนโง่เขลา



[1433] ท่านประดับแล้วด้วยอาภรณ์ต่าง ๆ มี
ต่างหูเกลี้ยงเกลา ทัดทรงระเบียบดอกไม้
ลูบไล้กระแจะจันทน์สีเหลือง ท่านมีทุกข์
อะไรหรือ จงมากอดอกคร่ำครวญอยู่ในกลาง
ป่า.
[1434] เรือนรถงามแพรวพราว แล้วไปด้วย
ทองคำของเรามีอยู่แล้ว เราหาล้อทั้ง 2 ของ
เรือนรถนั้นยังไม่ได้ ด้วยความทุกข์อันนั้น
เราจักตายเป็นแน่.
[1435] ท่านต้องการรถชนิดไร รถทำด้วย
ทองคำ แก้วมณี โลหะ หรือรูปิยะ จงบอก
รถชนิดนั้นแก่เราเถิด เราจะทำรถให้แก่ท่าน
จะหาล้อทั้งคู่ใส่ให้เสร็จ.
[1436] พระจันทร์และพระอาทิตย์ทั้ง 2 งาม
ผ่องใสอยู่ในวิถีทั้ง 2 ลอยไปในอากาศ รถ

ทองของเราย่อมงามด้วยพระจันทร์ และพระ-
อาทิตย์นั้นอันเป็นคู่ล้อ.
[1437] ดูก่อนมาณพ ท่านเป็นพาลแท้ ท่านใด
ปรารถนาสิ่งที่เขาไม่ปรารถนากัน เราเข้าใจ
ว่าท่านนั้นจักตายเสียเปล่า ท่านจักไม่ได้
พระจันทร์และพระอาทิตย์เลย.
[1438] แม้ความอุทัยแลอัสดงของพระจันทร์
และพระอาทิตย์นั้นก็ยังปรากฏอยู่ สีสรร-
วรรณะ และวิถีทางของพระจันทร์และพระ-
อาทิตย์ทั้ง 2 ก็ยังปรากฏอยู่ ส่วนบุคคลผู้
ล่วงลับไปแล้ว ย่อมไม่ปรากฏเลย บรรดาเรา
2 คนผู้คร่ำครวญอยู่ ใครเล่าหนอจะเป็นคน
โง่เขลายิ่งกว่ากัน.
[1439] แน่ะมาณพ ท่านพูดจริง บรรดาเรา
ทั้ง 2 ผู้คร่ำครวญอยู่ เรานี่แหละเป็นคน
โง่เขลายิ่งกว่าท่าน เราปรารถนาผู้ตายไปยัง
ปรโลกแล้ว เหมือนเด็กร้องไห้อยากได้พระ-
จันทร์ฉะนั้น.

[1440] น่าสรรเสริญ ท่านมารดเราผู้เร่าร้อนให้
สงบระงับดับความกระวนกระวายทั้งปวงได้
เหมือนบุคคลดับไฟที่ติดเปรียบด้วยน้ำฉะนั้น.
[1441] ท่านได้ถอนลูกศรที่เสียบแทงหทัยของ
เราออกได้แล้ว ได้บรรเทาความโศกถึงบุตร
ของเราผู้ถูกความโศกครอบงำแล้วหนอ.
[1442] ดูก่อนมาณพ เราเป็นผู้ถอนลูกศรได้
แล้ว ปราศจากความโศก ไม่มีความขุ่นมัว เรา
จะไม่เศร้าโศก จะไม่ร้องไห้ เพราะได้ฟัง
ถ้อยคำของท่าน.

จบ มัฏฐกุณฑลิชาดกที่ 11

อรรถกถามัฏฐกุณฑลิชาดกที่ 11



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
กุฎุมพีผู้หนึ่งซึ่งลูกตาย จึงตรัสเรื่องนี้มีคำเริ่มต้นว่า อลงฺกโต มฏฺฐ-
กุณฑลี
ดังนี้.
ได้ยินว่า ในพระนครสาวัตถี บุตรน้อยน่ารักของกุฎุมพีผู้เป็น
พุทธอุปฐากคนหนึ่งได้ตายลง กุฎุมพีเพียบด้วยความเศร้าโศกถึงบุตร