เมนู

11. ปูติมังสชาดก



ว่าด้วยโทษของการมองในเวลาที่ไม่ควรมอง



[1201] แน่ะสหาย การจ้องดู ของสุนัขจิ้งจอก
ชื่อปูติมังสะไม่เป็นที่ชอบใจเราเลย บุคคลพึง
เว้นสหายเช่นนี้ ให้ห่างไกล.
[1302] สุนัขจิ้งจอกตัวเมียชื่อว่า เวณีนี้เป็นบ้า
ไป ได้พรรณนาถึงแพะตัวเมียผู้เป็นสหายให้
ผัวฟัง ครั้นแพะตัวเมียถอยหลังกลับไปไม่มา
ก็นั่งซบเซาถึงแพะตัวเมียชื่อเมณฑิมาตา ผู้มา
แล้วถอยหลังกลับไปเสีย.
[1203] แน่ะเพื่อน ท่านนั้นแหละเป็นบ้า มี
ปัญญาทราม ขาดปัญญาเครื่องพิจารณา ท่าน
นั้นทำอุบายล่อลวงว่าตาย แต่ชะเง้อดู โดย
กาลอันไม่ควร.
[1204] บัณฑิตไม่ควรเพ่งดูในกาลอันไม่ควร
ควรเพ่งดูแต่ในกาลอันควร ผู้ใดเพ่งดูในกาล

อันไม่ควร ผู้นั้นย่อมซบเซา เหมือนสุนัขจิ้ง-
จอกชื่อปูติมังสะ ฉะนั้น.
[1305] ดูก่อนสหาย ขอความรักจงมีแก่เรา
ท่านจงให้ความเอิบอิ่มแก่เรา สามีของเรากลับ
ฟื้นขึ้นมาแล้ว ถ้าท่านมีความรักเรา ก็จงมา
กับเราเถิด.
[1306] แน่ะสหาย ขอความรักจงมีแก่ท่าน เรา
จะให้ความเอิบอิ่มแก่ท่าน เราจักมาด้วยบริวาร
เป็นอันมาก ท่านจงจัดแจงโภชนาหารไว้เถิด.
[1307] บริวารของท่านเป็นเช่นไร เราจักจัดแจง
โภชนาหารเหล่าใด ก็บริวารเหล่านั้นทั้งหมดมี
ชื่อว่าอย่างไร เราขอถาม ขอท่านจงบอกบริวาร
เหล่านั้นแก่เรา.
[1308] บริวารของเราเช่นนี้ คือ สุนัขชื่อมาลิ-
ยะ 1 ชื่อจตุรักขะ 1 ชื่อปิงคิยะ 1 ชื่อชัม-
พุกะ 1 ท่านจงจัดแจงโภชนาหารไว้เพื่อบริวาร
เหล่านั้นเถิด.

[1309] เมื่อท่านออกจากเรือนไป สิ่งของของ
ท่านไม่มีใครดูแล จักเสียหาย คำพูดของ
สหายมิได้มีความรังเกียจ ท่านจงอยู่ที่นี้เถิด
อย่าไปเลย.

จบ ปูติมังสชาดกที่ 11

อรรถกถาปูติมังสชาดกที่ 11



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
ความไม่สำรวม จึงได้ตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า น โข เม รุจฺจติ
ดังนี้.
ความย่อมีว่า สมัยหนึ่ง ภิกษุจำนวนมากไม่คุ้มครองทวารใน
อินทรีย์ทั้งหลาย พระศาสดาตรัสแก่พระอานนทเถระว่า ควรจะกล่าว
สอนภิกษุเหล่านี้. รับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์เป็นพิเศษ เสด็จไปในท่าม-
กลางประทับนั่งเหนือบัลลังก์อันประเสริฐที่จัดไว้ ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย
มาแล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ขึ้นชื่อว่าภิกษุไม่ควรถือนิมิตรใน
รูปเป็นต้น ด้วยสามารถแห่งศุภนิมิตร เพราะถ้าตายลงในขณะนั้น จะ
บังเกิดในอบายมีนรกเป็นต้น ฉะนั้น อย่าถือศุภนิมิตรในรูปเป็นต้น
ขึ้นชื่อว่าภิกษุไม่ควรยึดรูปเป็นต้นเป็นอารมณ์ เพราะผู้ที่ยึดรูปเป็นต้น