เมนู

5. คังคมาลชาดก



ว่าด้วยกามทั้งหลายเกิดจากความดำริ



[1155] แผ่นดินร้อนเหมือนถ่านไฟ ดารดาษไป
ด้วยทรายอันร้อนเหมือนเถ้ารึง เมื่อเป็นเช่นนี้
เจ้ายังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนขับเพลงอยู่ได้ แดด
ไม่เผาเจ้าดอกหรือ เบื้องบนก็ร้อน เบื้องล่าง
ก็ร้อน เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้ายังทำเป็นทองไม่รู้
ร้อน ขับเพลงอยู่ได้ แดดไม่เผาเจ้าดอกหรือ ?
[1156] ข้าแต่พระราชา แดดหาเผาข้าพระองค์ไม่
แต่ว่าวัตถุกามและกิเลสกาม ย่อมเผาข้าพระ-
องค์ เพราะว่าความประสงค์หลาย ๆ อย่าง
มีอยู่ ความประสงค์เหล่านั้น ย่อมเผาข้าพระ-
องค์ แดดหาได้เผาข้าพระองค์ไม่.
[1157] ดูก่อนกาม เราได้เห็นมูลรากของเจ้า
แล้ว เจ้าเกิดจากความดำริ เราจักไม่ดำริถึงเจ้า
อีกละ เจ้าจักไม่เกิดด้วยอาการอย่างนี้.

[1158] กามแม้น้อย ก็ไม่พอแก่มหาชน มหาชน
ย่อมไม่อิ่มด้วยกามแม้มาก น่าสลดใจที่พวก
คนพาลพากันบ่นว่า รูป เสียงเหล่านี้ จงมี
แก่เรา กุลบุตรผู้ประกอบความเพียร พึงเว้น
ให้ขาดเถิด.
[1159] การที่เราได้เป็นพระเจ้าอุทัยราชถึงความ
เป็นใหญ่ นี่เป็นผลแห่งกรรม มีประมาณน้อย
ของเรา มาณพใดละกามราคะออกบวชแล้ว
มาณพนั้นชื่อว่าได้ลาภดีแล้ว.
[1160] สัตว์ทั้งหลาย ย่อมละธรรมชั่วด้วยตบะ
แต่สัตว์เหล่านั้น จะละความเป็นคน ผู้ใช้หม้อ
ตักน้ำให้เขาอาบได้หรือ แน่ะ คังคมาละ การที่
ท่านข่มขี่ด้วยตบะ แล้วร้องเรียกโอรสของเรา
โดยชื่อว่าพรหมทัตในวันนี้นั้น ไม่เป็นการ
สมควรเลย.
[1161] ข้าแต่เสด็จแม่ เราทั้งหลายพร้อมทั้ง
พระราชาและอำมาตย์ พากันไหว้พระปัจเจก-

พุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้านั้น เป็นผู้อันชน
ทั้งปวงไหว้แล้ว เชิญเสด็จแม่ทอดพระเนตร
ดูผลแห่งขันติและโสรัจจะ ในปัจจุบันเถิด.
[1162] ท่านทั้งหลาย อย่าได้กล่าวอะไร ๆ กะ
ท่านคังคมาละ ผู้เป็นพระปัจเจกมุนี ศึกษา
อยู่ในคลองมุนี ความจริงพระปัจเจกพุทธเจ้า
ดังคามาละนี้ ข้ามห้วงน้ำที่พระปัจเจกมุนี
ทั้งหลายข้ามแล้ว หมดความเศร้าโศกเที่ยวไป.

จบ คังคมาลชาดกที่ 5

อรรถกถาคังคมาลชาดกที่ 5



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
อุโบสถกรรม จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า องฺคารชาตา ดังนี้.
ความย่อมีว่า วันหนึ่งพระศาสดาตรัสเรียกพวกรักษาอุโบสถมา
แล้วตรัสว่า ดูก่อนอุบาสกทั้งหลาย ท่านทั้งหลายทำอุโบสถกรรมให้
สำเร็จดีแล้ว ผู้ที่รักษาอุโบสถควรให้ทาน รักษาศีล ไม่โกรธ เจริญ
เมตตา อยู่รักษาอุโบสถ ก็บัณฑิตครั้งก่อนให้ยศใหญ่ เพราะอาศัย
อุโบสถกรรมที่รักษาครึ่งวัน ดังนี้ พวกอุบาสกเหล่านั้น กราบทูล
อาราธนา จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-