เมนู

11. ปรันตปชาดก



ว่าด้วยลางบอกความชั่วและภัยที่จะมาถึง



[1114] บาปจักมาถึงข้าพระองค์ ภัยจักมาถึงข้า
พระองค์ เพราะมนุษย์หรือมฤคก็ไม่รู้เขย่ากิ่ง
ไม้ในครั้งนั้น.
[1115] ความใคร่ของเราในภรรยาผู้หวาดกลัว ที่
อยู่ไม่ไกลจักทำให้เราผอมเหลือง เหมือนกิ่งไม้
ทำให้นายปรันตปะผอมเหลืองฉะนั้น.
[1116] ภริยาผู้น่ารักใคร่ ไม่มีที่ติอยู่ในบ้าน จัด
เศร้าโศกถึงเรา ความเศร้าโศกจักทำให้เธอ
ผอมเหลือง เหมือนกิ่งไม้ทำให้นายปรันตปะ
ผอมเหลืองฉะนั้น.
[1117] หางตาที่หล่อนชำเลืองมาหาฉันก็ดี การ
ยิ้มของหล่อนก็ดี ถ้อยคำที่หล่อนเปล่งออกมา
ก็ดี จักทำให้เราผอมเหลือง เหมือนกิ่งไม้ทำให้
นายปรันตปะผอมเหลืองฉะนั้น.

[1118] เสียงกิ่งไม้ได้มาประจักษ์แน่นอนแล้ว
เสียงนั้นเห็นจะมาแจ้งเหตุให้ตัวเจ้าทราบแน่
นอนแล้ว ผู้ที่สั่นกิ่งไม้นั้นได้บอกเรื่องนั้นอย่าง
แน่นอน.
[1119] เรื่องนี้แลที่ตัวเจ้าคนโง่คิดว่า กิ่งไม้ที่
มนุษย์หรือมฤคก็ไม่ทราบเขย่าแล้วในครั้งนั้น
ได้มาถึงตัวเจ้าแล้ว.
[1120] เจ้าได้รู้อย่างนั้นแล้ว เจ้ายังลวงเสด็จพ่อ
ของฉันไปฆ่าแล้วเอากิ่งไม้ปิดไว้ บัดนี้ ภัยจัก
มาถึงเจ้าบ้างละ.

จบ ปรันตปชาดกที่ 11

อรรถกถาปรันตปชาดกที่ 11



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร ทรงปรารภ
การตะเกียกตะกายของพระเทวทัต เพื่อจะปลงพระชนม์พระศาสดา
แล้วจึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า อาคมิสฺสติ เม ปาปํ ดังนี้.
ความพิสดารว่า ในครั้งนั้นภิกษุทั้งหลาย ตั้งเรื่องสนทนากันขึ้น
ว่า ดูก่อนอาวุโส พระเทวทัตตะเกียกตะกาย เพื่อจะปลงพระชนม์พระ-