เมนู

9. ชาครชาดก



ว่าด้วยผู้หลับและผู้ตื่น



[1100] เมื่อคนทั้งหลายในโลกนี้ตื่นอยู่ ใคร
เป็นผู้หลับแล้ว แต่เมื่อคนทั้งหลายในโลกนี้
หลับแล้ว ใครเป็นผู้ตื่น ใครเข้าใจปัญหา
ข้อนี้ของเรา ใครจะแก้ปัญหาข้อนี้ของเรา
ได้.
[1101] เมื่อพระอริยเจ้าทั้งหลายตื่นอยู่ ข้าพเจ้า
เป็นผู้หลับแล้ว แต่เมื่อคนทั้งหลายหลับแล้ว
ข้าพเจ้าเป็นผู้ตื่น ข้าพเจ้าเข้าใจปัญหาข้อนั้น
ข้าพเจ้าจะแก้ปัญหาของท่านได้.
[1102] เมื่อคนทั้งหลายตื่นอยู่ ท่านจะเป็นผู้
หลับได้อย่างไร เมื่อคนทั้งหลายหลับแล้ว
ท่านจะเป็นผู้ตื่นได้อย่างไร ท่านเข้าใจปัญหา
ข้อนี้อย่างไร ท่านจะแก้ปัญหาของข้าพเจ้า
อย่างไร ?

[1103] ดูก่อนเทวดา ชนเหล่าใดไม่รู้ธรรม คือ
สัญญมะและทมะ เมื่อชนเหล่านั้นหลับแล้ว
เพราะประมาท ข้าพเจ้าตื่นอยู่.
[1104] พระอริยเจ้าเหล่าใดสำรอกราคะโทสะ
และอวิชชาออกแล้ว เมื่อพระอริยเจ้าเหล่านั้น
ตื่นอยู่ ข้าพเจ้าก็เป็นผู้หลับแล้ว ท่านเทวดา.
[1105] เมื่อพระอริยบุคคลทั้งหลายตื่นอยู่ ข้าพเจ้า
ชื่อว่า เป็นผู้หลับแล้วอย่างนี้ แต่เมื่อคน
ทั้งหลายหลับแล้ว ข้าพเจ้าชื่อว่าเป็นผู้ตื่นอย่าง
นี้ ข้าพเจ้าเข้าใจปัญหาข้อนี้อย่างนี้ ข้าพเจ้า
แก้ปัญหาของท่านอย่างนี้.
[1106] ถูกแล้ว เมื่อพระอริยเจ้าทั้งหลายตื่นอยู่
ท่านเป็นผู้หลับแล้ว แต่เมื่อคนทั้งหลายหลับ
แล้ว ท่านเป็นผู้ตื่นดีแล้ว ท่านเข้าใจปัญหา
ของข้าพเจ้าข้อนี้ดีแล้ว ท่านตอบปัญหาของ
ข้าพเจ้าถูกต้องแล้ว.

จบ ชาครชาดกที่ 9

อรรถกถาชาครชาดกที่ 9



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหาร ทรงปรารภ
อุบาสกคนใดคนหนึ่ง แล้วตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า โกธ ชาครตํ
สุตฺโต
ดังนี้.
ความพิสดารว่า อุบาสกคนนั้น เป็นอริยสาวกผู้เป็นโสดาบัน
เดินทางกันดารไปกับพ่อค้าเกวียน. นายกองเกวียน คือหัวหน้าพ่อค้า
ปลาเกวียน 500 เล่มไว้ ณ ที่แห่งหนึ่งในทางกันดารนั้น เป็นสถานที่
หาน้ำได้สะดวก จัดแจงเคี้ยวของกินแล้ว ก็เข้าที่พักผ่อน. คนเหล่านั้น
พากันนอน ณ ที่นั้น ๆ แล้วก็หลับไป. ส่วนอุบาสกตั้งใจเดินจงกรม
ที่ควงต้นไม้ต้นหนึ่ง ใกล้ ๆ นายกองเกวียน. ลำดับนั้น พวกโจร 500
คน ผู้ต้องการจะปล้นพ่อค้านั้น ได้พากันถืออาวุธนานาชนิดมายืนล้อม
พ่อค้านั้นไว้. พวกเขาเห็นอุบาสกนั้นกำลังจงกรมอยู่ คิดว่า พวกเรา
จักปล้นเวลาอุบาสกคนนี้หลับ แล้วได้พากันอยู่ ณ ที่นั้น ๆ. ฝ่ายอุบาสก
ก็ได้จงกรมอยู่ตลอดราตรี 3 ยามทีเดียว. เวลาย่ำรุ่ง พวกโจรพากัน
ทิ้งก้อนหินและไม้ค้อนเป็นต้น ที่ถือมาแล้ว พูดว่า นายกองเกวียน
ผู้เจริญ ท่านได้ชีวิตแล้วเกิดเป็นเจ้าของของสิ่งที่มีอยู่ของท่าน เพราะ
อาศัยบุรุษคนนี้ผู้ตื่นอยู่ เพราะความไม่ประมาท ท่านควรทำสักการะ
บุรุษคนนี้ ดังนี้แล้ว จึงหลีกหนีไป. คนทั้งหลายลุกขึ้นตามเวลานั่นเอง
เห็นก้อนหินและไม้ค้อนเป็นต้น ที่พวกโจรเหล่านั้นทิ้งไว้ แล้วพูดว่า
พวกเราได้ชีวิตเพราะอาศัยอุบาสกคนนี้ แล้วได้พากันทำสักการะอุบาสก.