เมนู

8. ธูมการิชาดก



ว่าด้วยความเศร้าโศกเพราะได้ใหม่ลืมเก่า



[1093] พระเจ้ายุธิฏฐิละผู้ทรงใคร่ในธรรม ได้
ตรัสถามวิธูรบัณฑิตแล้วว่า ดูก่อนพราหมณ์
ท่านรู้บ้างไหม ? ใครคนหนึ่งกำลังเศร้าโศกมาก.
[1094] พราหมณ์วาเสฏฐะผู้มีฟืนมาก อยู่ในป่า
กับฝูงแพะไม่เฉื่อยชา ได้ก่อไฟให้เกิดควันทั้ง
กลางคืนทั้งกลางวัน.
[1095] ชะมดทั้งหลายถูกยุงรบกวน ได้พากัน
เข้าไปอาศัยอยู่ในสำนักของพราหมณ์นั้นตลอด
ฤดูฝนเพราะกลิ่นควันนั้น.
[1096] พราหมณ์นั้นเอาใจใส่ชะมด ไม่เอาใจใส่
แพะทั้งหลายว่า จะมาเข้าคอกหรือจะไปป่า
แพะเหล่านั้นของเขาจึงหายไปแล้ว.
[1097] แต่ในสารทกาล ในป่าที่ยุงซาลงแล้ว
ชะมดทั้งหลายก็ไปสู่ยอดเขา และที่ที่เป็นต้น
น้ำลำธาร.

[1098] พราหมณ์เห็นชะมดทั้งหลายไปแล้ว และ
แพะทั้งหลายถึงความวิบัติแล้ว ก็ซูบผอมมีผิว
พรรณซีด และเป็นโรคผอมเหลือง.
[1099] ผู้ใดละทิ้งคนของตน ทำคนที่มาใหม่ให้
เป็นที่รักอย่างนี้ ผู้นั้นคนเดียวจะเศร้าโศกมาก
เหมือนพราหมณ์ธูมการีเศร้าโศกอยู่ฉะนั้น

จบ ธนูการิชาดกที่ 8

อรรถกถาธูมการิชาดกที่ 8



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
การทรงสงเคราะห์อาคันตุกะของพระเจ้าโกศลแล้ว จึงตรัสเรื่องนี้มีคำ
เริ่มต้นว่า ราชา อปุจฺฉิ วิธูรํ ดังนี้.
ได้ยินว่า สมัยหนึ่งพระเจ้าโกศลนั้น ไม่ได้ทรงสงเคราะห์ทหาร
เก่าที่มาเฝ้าตามประเพณี แต่ได้ทรงทำสักการะสัมมานะ แก่ทหารผู้เข้า
มาใหม่ ๆ ยังเป็นแขก ภายหลังเมื่อพระองค์เสด็จไปเพื่อทรงปราบปัจ-
จันตชนบทที่ก่อการร้าย ทหารเก่าก็ไม่สู้รบโดยคิดว่า ทหารใหม่ที่เป็น
แขกผู้ได้สักการะจักสู้รบ ส่วนทหารใหม่ที่เป็นแขกก็ไม่สู้รบโดยคิดว่า
ทหารเก่าจักสู้รบ. โจรเลยชนะพระราชา. พระราชาทรงปราชัยแล้ว
ทรงทราบความที่ตนปราชัย เพราะโทษคือการทรงสงเคราะห์ทหารใหม่
ที่เป็นแขก เสด็จกลับพระนครสาวัตถี ทรงดำริว่า เราคนเดียว