เมนู

2. คันธารวรรค



1. คันธารชาดก



ว่าด้วยพูดคำมีประโยชน์เขาโกรธไม่ควรกล่าว



[1043] ท่านทิ้งหมู่บ้านที่บริบูรณ์ 16,000 หมู่
และคลังที่เดิมด้วยทรัพย์มาแล้ว บัดนี้ยังจะทำ
การสะสมอยู่อีก.
[1044] ท่านละทิ้งที่อยู่คือคันธารรัฐ หนีจาก
การปกครองในราชธานี ที่มีทรัพย์พอเพียงแล้ว
บัดนี้ยังจะปกครองในที่นี้อีก.
[1045] ดูก่อนท่านวิเทหะ เรากล่าวธรรมะ
ความจริง เราไม่ชอบธรรมความไม่จริง เมื่อ
เรากล่าวคำเป็นธรรมอยู่ บาปก็ไม่เปรอะเปื้อน
เรา.
[1046] คนอื่นได้รับความแค้นเคือง เพราะคำ
พูดอย่างใดอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าคำพูดนั้นจะมี
ประโยชน์มาก บัณฑิตก็ไม่ควรพูด.
[1047] ผู้ถูกตักเตือน จะแค้นเคืองหรือไม่แค้น
เคืองก็ตามเถิด จะเขี่ยทิ้งเหมือนโปรยแกลบ

ทิ้งก็ตาม เมื่อเขากล่าวคำเป็นธรรมอยู่ ขึ้นชื่อ
ว่าบาปย่อมไม่เปรอะเปื้อน.
[1048] ถ้าสัตว์เหล่านั้น ไม่มีปัญญาของตนเอง
หรือวินัยที่ศึกษาดีแล้วไซร้ คนจำนวนมากก็
จะเที่ยวไปเหมือนกระบือตาบอดเที่ยวไปในป่า
[1049] แต่เพราะเหตุที่ธีรชนบางเหล่าศึกษาดี
แล้ว ในสำนักอาจารย์ ฉะนั้นธีรชนผู้มีวินัย
ที่ได้แนะนำแล้ว จึงมีจิตตั้งมั่นเที่ยวไปอยู่.

จบ คันธารชาดกที่ 1

อรรถกถาคันธารวรรคที่ 2



อรรถกถาคันธารชาดกที่ 1



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
เภสัชชสันนิธิการสิกขาบท สิกขาบทว่าด้วยการทำการสะสมเภสัช แล้ว
จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า หิตฺวา คามสหสฺสานิ ดังนี้
ก็เรื่องเกิดขึ้นแล้วที่กรุงราชคฤห์. ความพิสดารว่า เมื่อท่าน
ปิลินทวัจฉะไปพระราชวังเพื่อปล่อยคนตระกูลผู้รักษาอาราม แล้วสร้าง
ปราสาททองถวายพระราชาด้วยกำลังฤทธิ์ คนทั้งหลายเลื่อมใสพากัน