เมนู

6. ทสัณณกชาดก



ว่าด้วยให้แล้วไม่เดือดร้อนภายหลังทำได้ยาก



[1007] ชายคนนี้กลืนดาบทสรรณกะ ที่มีคมอัน
คมกริบ ดื่มเลือดผู้อื่นที่กระทบแล้ว ฟันแล้ว
ในท่ามกลางบริษัท ยังมีไหม สิ่งที่ทำได้ยาก
กว่าการกลืนดาบนี้ ท่านถูกเราถามแล้วจงบอก
เหตุอย่างอื่นที่ทำได้ยากกว่าแก่เรา.
[1008] ก็ผู้ใดฟังกล่าวว่า เราจะให้การกล่าวของ
ผู้นั้น ทำได้ยากกว่าการกลืนดาบ ที่ดื่มโลหิต
ของผู้อื่นที่กระทบเข้าแล้ว ของชายคนนั้น
เพราะความโลภ เหตุอย่างอื่นทุกอย่าง เป็นส่ง
ที่ทำได้ง่าย ข้าแต่พระเจ้ามคธ ขอพระองค์
โปรดทรงทราบอย่างนี้เถิด.
[1009] อายุรบัณฑิตผู้ฉลาดในธรรม กล่าวแก้
ข้อความแห่งปัญญาแล้ว บัดนี้เราจะขอถาม
ปุกกุสบัณฑิตว่า สิ่งที่ทำได้ยากกว่าการบอกว่า

เราจะให้นั้นยังมีอยู่หรือ ท่านถูกเราถามแล้ว
จงบอกเหตุอย่างอื่นที่ทำได้ยากกว่าแก่เรา.
[1010] คนทั้งหลายไม่รักษาคำที่พูดไว้ คำที่พูด
ที่เปล่งออกไปนั้นก็ไม่มีผล ก็ผู้ใดให้ปฏิญญา
ไว้แล้ว ก็ตัดทอนความโลภได้ การบั่นทอน
ความโลภของผู้นั้นนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ว่า
การกลืนดาบและกว่าการให้ปฏิญญานั้น เหตุ
อย่างอันทุกอย่างเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย. ข้าแต่
พระเจ้ามคธ ขอพระองค์โปรดทรงทราบอย่าง
นี้เถิด.
[1011] ปุกกุสบัณฑิตผู้ฉลาดในธรรม กล่าวแก้
ข้อความแห่งปัญหาแล้ว บัดนี้ เราจะถามเสนก-
บัณฑิตกว่า สิ่งที่ทำได้ยากว่าการให้สิ่งของนั้น
ยังมีอยู่หรือ ท่านถูกเราถามแล้ว ขอจงบอก
เหตุอย่างอื่นที่ทำได้ยากกว่าแก่เรา.
[1012] คนควรให้ทาน จะน้อยหรือมากก็ไม่ว่า
แต่ผู้ใดครั้นให้แล้วไม่เดือดร้อนใจในภายหลัง
การไม่เดือดร้อนใจนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากกว่า

การกลืนดาบ กว่าการพูดว่าจะให้สิ่งของและ
กว่าการให้สิ่งของที่รักนั้น. เหตุอย่างอื่นทั้ง
หมดเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ข้าแต่พระเจ้ามคธ ขอ
พระองค์โปรดทรงทราบอย่างนี้.
[1013] อายุรบัณฑิตแก้ปัญหาแล้ว และปุกกุส-
บัณฑิต ก็แก้ปัญหาแล้ว ส่วนเสนกบัณฑิต
ครอบงำปัญหาหมดทุกข้อว่า คนให้ทานแล้วไม่
ควรร้อนใจภายหลัง อย่างที่เสนกบัณฑิตพูด.

จบ ทสัณณกชาดกที่ 6

อรรถกถาทสัณณกชาดกที่ 6



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
การยั่วยวนของภรรยาเก่า จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า ทสณฺณกํ
ติขิณธารํ
ดังนี้.
ดังจะกล่าวโดยย่อ พระศาสดาตรัสถาม ภิกษุนั้นว่า ได้ทราบว่า
เธอกระสันอยากสึกจริงหรือ ? เมื่อเธอทราบทูลว่า จริงพระเจ้าข้า ตรัส
ถามต่อว่า ใครยั่วให้กระสัน ? เมื่อเธอทูลว่า ภรรยาเก่าพระเจ้าข้า
จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ หญิงนี้ทำอนัตถะให้เธอ ไม่เฉพาะในบัดนี้ แม้