เมนู

3. ทรีมุขชาดก



ว่าด้วยโทษของกาม



[843] กามทั้งหลายเหมือนหล่ม กามทั้งหลาย
เหมือนพุ ก็อาตมภาพได้ทูลถึงภัยนี้ ว่ามี
มูล 3 ธุลีและควัน อาตมภาพก็ได้ถวาย
พระพรแล้ว ข้าแต่มหาบพิตรพรหมทัต ขอ
พระองศ์จงทรงละสิ่งเหล่านั้น แล้วเสด็จออก
ผนวชเถิด.
[844] ดูก่อนพราหมณ์ โยมทั้งกำหนัด ทั้งยินดี
ทั้งสยบ อยู่ในกามทั้งหลาย ต้องการมีชีวิตอยู่
ไม่อาจละกามนั้น ที่มีรูปสะพึงกลัวได้ แต่โยม
จักทำบุญมิใช่น้อย.
[845] ผู้ที่ถูกผู้มุ่งประโยชน์ อนุเคราะห์ด้วย
ประโยชน์เกื้อกูล กล่าวสอนอยู่ แต่ไม่ทำ
ตามคำสอน เป็นคนโง่ สำคัญว่า สิ่งนี้เท่านั้น
ประเสริฐ ว่าสิ่งอื่น จะเข้าถึงครรภ์สัตว์ แล้ว ๆ
เล่า ๆ.

[846] เขาจะเข้าถึงนรกชนิดร้ายกาจ. เหล่า
สัตว์ที่ยังไม่ปราศจากราคะ ในกามทั้งหลาย
ติดแล้วในกายของตน ยังละไม่ได้ ซึ่งที่ที่ไม่
สะอาด ของผู้สะอาดทั้งหลาย ที่เดิมไปด้วย
มูตรและคูถ.
[847] สัตว์ทั้งหลายเลอะอุจจาระ เปื้อนเลือด
เลอะไขออกมา เพราะว่าสัตว์ทั้งหลายถูกต้อง
สิ่งใด ๆ ด้วยกายอยู่ในขณะใด ในขณะนั้น
เอง ก็สัมผัสผองทุกข์ล้วน ๆ ที่ไม่มีความ
แช่มชื่นเลย.
[848] อาตมภาพเห็นแล้ว จึงได้ทูลถวายพระ
พร, ไม่ได้ฟังจากผู้อื่น ทูลถวายพระพร แต่
อาตมกาพระลึกถึงขันธ์ ที่เคยอยู่อาศัยมาเป็น
จำนวนมาก.

จบ ทรีมุขชาดกที่ 3

อรรถกถาทรีมุขชาดกที่ 3



พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหาร ทรงปรารภ
มหาภิเนษกรมณ์ จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า ปงฺโกว กาม ดังนี้
เรื่องในปัจจุบันได้กล่าวไว้แล้ว ในหนหลัง.
ได้ยินว่า พระราชาทรงพระนามว่า มคธราช ครองราช
สมบัติที่อยู่ในนครราชคฤห์. ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์ ได้ถือกำเนิดใน
พระครรภ์ของพระอัครมเหสีของพระองค์. พระญาติทั้งหลายได้ถวาย
พระนามพระองค์ว่า พรหมทัตกุมาร. ในวันที่พระราชกุมารประสูติ
นั่งเอง ฝ่ายบุตรของปุโรหิต ก็เกิด. ใบหน้าของเด็กนั้น สวยงามมาก
เพราะเหตุนั้นญาติของเขา จึงได้ตั้งชื่อของเด็กนั้นว่า ทรีมุข. กุมาร
ทั้ง 2 นั้น เจริญเติบโตแล้ว ในราชตระกูลนั้นเอง. ทั้งคู่นั้น
เป็นสหายรักของกัน เวลามีชนมายุ 16 ชันษา ได้ไปยังเมืองตักกศิลา
เรียนศิลปะทุกอย่างแล้ว พากันเที่ยวไปในตามนิคมเป็นต้น ด้วยความ
ตั้งใจว่า จักพากันศึกษาลัทธิทุกลัทธิ และจักรู้จารีตของท้องถิ่นด้วย
ถึงเมืองพาราณสี พักอยู่ที่ศาลเจ้า รุ่งเช้าพากันเข้าไปเมืองพาราณสี
เพื่อภิกษา. ตนในตระกูล ๆ หนึ่ง ในเมืองพาราณสีนั้น ตั้งใจว่า พวก
เราจักเลี้ยงพราหมณ์ แล้วถวายเครื่องบูชา จึงหุงข้าวปายาส แล้วปู
อาสนะไว้. คนทั้งหลายเห็นคนทั้ง 2 นั้น กำลังเที่ยวภิกขาจาร เข้า
ใจว่า พราหมณ์มาแล้ว จึงให้เข้าไปในบ้าน ปูผาขาวไว้สำหรับพระ-