เมนู

10. มณิชาดก



ว่าด้วยแก้วมณี



[963] เป็นเวลานานหนอ เราจึงจะเห็นสหาย
ทัดทรงแก้วมณี สหายของเรางามจริง เพราะ
การแต่งขนที่ช่างตกแต่งดีแล้ว.
[964] เราเป็นผู้ขวนขวายในการงานทั้งหลาย จึง
มีขนแข็งคล้ายเล็บงอกขึ้นใต้ปีก นาน ๆ จึงจะ
ได้ช่างกัลบก วันนี้ได้ให้ช่างถอนขนออกแล้ว.
[965] เธอได้ช่างกัลบกที่หาได้ยากมาแล้ว ได้
ให้เขาถอนออกไปโดยวิธีใดหนอ เธอจงให้
ช่างถอนออกโดยวิธีนั้นเถิด สหาย ก็เมื่อเป็น
เช่นนั้น อะไรเล่าห้อยย้อยอยู่คอของเธอ ?
[966] แก้วมณีห้อยอยู่ที่คอมนุษย์ พวกสุขุ-
มาลชาติทั้งหลาย เราเลียนแบบมนุษย์เหล่านั้น
เธออย่าสำคัญว่าทำเล่น.

[967] ดูก่อนสหาย ถ้าแม้ว่า เธอชอบใจการ
แต่งขนที่ตกแต่งดีแล้วนี้ไซร้ เราจะให้ช่างทำ
ให้เธอ และแม้แก้วมณีเราก็จะให้เธอ.
[968] เธอเท่านั้นแหละเหมาะกับแก้วมณี และ
ขนที่ตกแต่งดีแล้ว เราบอกเธอแล้วก็จะไปละ
การเห็นเธอเป็นที่รักของฉัน.

จบมณิชาดกที่ 10

อรรถกถามณิชาดกที่ 10


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
ภิกษุผู้เหลวไหล จึงได้ตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า จิรสฺสํ วต
ปสฺสามิ
ดังนี้. เรื่องปัจจุบันมีนัยดังกล่าวไว้แล้วในหนหลังนั่นแหละ.
พระองค์ทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้.
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนคร
พาราณสี พระโพธิสัตว์เป็นนกพิราบอาศัยอยู่ที่รังนก บนโรงครัวหลัง
ใหญ่ ของเศรษฐีเมืองพาราณสี. ฝ่ายกาทำความคุ้นเคยกับนกพิราบ
นั้นแล้วอยู่ ณ ที่นั้นเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเรื่องทั้งหมดควรให้พิสดาร
เถิด. พ่อครัวถอนขนปีกของกาออกแล้วเอาแป้งทาปีกไว้ เจาะชิ้นกระ