เมนู

2. วรรณาโรหวรรค


1. วรรณาโรหชาดก


ว่าด้วยผู้มีใจคอหนักแน่น


[753] ท่านผู้มีเขี้ยวงามกล่าวว่า เสื้อโคร่งชื่อ
สุพาหุนี้ มีวรรณะ ลักษณะ ชาติ กำลังกาย
และกำลังความเพียร ไม่ประเสริฐไปกว่าเรา.
[754] เสือโคร่งชื่อสุพาหุกล่าวว่า ราชสีห์ผู้มี
เขี้ยวงาม มีวรรณะ. ลักษณะ ชาติ กำลังกาย
และกำลังความเพียร ไม่ประเสริฐไปกว่าเรา.
[755] แน่ะเพื่อนสุพาหุ ถ้าท่านจะประทุษ-
ร้ายเราผู้อยู่กับท่านอย่างนี้ บัดนี้ เราก็ไม่พึง
ยินดีอยู่ร่วมกับท่านต่อไป.
[756] ผู้ใดเชื่อคำของคนอื่นโดยเป็นจริงเป็น-
จัง ผู้นั้นต้องพลันแตกจากมิตร และต้อง
ประสบเวรเป็นอันมาก.
[757] ผู้ใดไม่ประมาททุกขณะ มุ่งความแตก
ร้าว คอยแต่จับความผิด ผู้นั้นไม่ชื่อว่าเป็น
มิตร ส่วนผู้ใดอันคนอื่นยุให้แตกกันไม่ได้

ไม่มีความรังเกียจในมิตร นอนอยู่อย่าง
ปลอดภัย เหมือนบุตรนอนแอบอกมารดา
ฉะนั้น ผู้นั้นนับว่าเป็นมิตรแท้.

จบ วรรณาโรหชาดกที่ 1

อรรถกถาวรรณาโรหวรรคที่ 2


อรรถกถาวรรณาโรหชาดกที่ 1


พระศาสดาเมื่ออาศัยพระนครสาวัตถีประทับอยู่ ณ พระวิหาร-
เชตวัน ทรงปรารภพระเถระอัครสาวกทั้งสอง จึงตรัสพระธรรม-
เทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า วณฺณาโรเหน ดังนี้.
ได้ยินว่า สมัยหนึ่ง พระมหาเถระทั้งสองคิดกันว่า พวกเรา
จักพอกพูนการอยู่ป่าตลอดภายในพรรษานี้ จึงทูลลาพระศาสดา แล้ว
ละหมู่คณะ ถือบาตรจีวรด้วยตนเอง ออกจากพระเชตวัน อาศัย
ปัจจันตคามแห่งหนึ่งอยู่ในป่า. บุรุษกินเดนแม้คนหนึ่ง ทำการอุปัฏ-
ฐากพระเถระทั้งสองอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่งในป่านั้นนั่นแหละ บุรุษนั้น
เห็นการอยู่อย่างพร้อมเพรียงของพระเถระทั้งสอง จึงคิดว่า พระเถระ
ทั้งสองนั้นอยู่พร้อมเพรียงกันเหลือเกิน เราอาจไหมหนอที่จะทำลาย
พระเถระเหล่านี้ให้แตกกันและกัน จึงเข้าไปหาพระสารีบุตรเถระแล้ว
ถามว่า ท่านผู้เจริญ ท่านมีเวรอะไร ๆ กับพระมหาโมคคัลลานเถระผู้
เป็นเจ้าหรือหนอ ? พระสารีบุตรเถระถามว่า ก็เวรอะไรเล่า ? ผู้มีอายุ.