เมนู

9. สันธิเภทชาดก


ว่าด้วยโทษที่เชื่อถือคำส่อเสียด


[694] ดูก่อนนายสารถี สัตว์ทั้ง 2 นี้ ไม่ได้
มีความเสมอกันเพราะสตรีทั้งหลายเลย ไม่
ได้มีความเสมอกันเพราะอาหารเลย ภายหลัง
เมื่อสุนัขจิ้งจอกยุยงทำลายความสนิทสนม
กันเสียจนถึงให้ตาย ท่านจงเห็นเหตุนั้นซึ่ง
ฉันคิดไว้ถูกต้องแล้ว.
[695] พวกสุนัขจิ้งจอกพากันกัดกินโคและ
ราชสีห์ เพราะคำส่อเสียดใด คำส่อเสียด
นั้น ย่อมเป็นไปถึงตัดมิตรภาพเพราะเนื้อ
ดุจดาบคม ฉะนั้น.
[696] ดูก่อนนายสารถี ท่านจงดูการนอนตาย
ของสัตว์ทั้ง 2 นี้ ผู้ใดเชื่อถือถ้อยคำของตน
ส่อเสียด ผู้มุ่งทำลายความสนิทสนม ผู้นั้น
จะต้องนอนตายอย่างนี้.
[697] ดูก่อนนายสารถี นรชนเหล่าใดไม่เชื่อ
ถือถ้อยคำของตนส่อเสียด ผู้มุ่งทำลายความ

สนิทสนม นรชนเหล่านั้น ย่อมได้ประสบ
ความสุขเหมือนคนไปสวรรค์ ฉะนั้น.

จบ สันธิเภทชาดกที่ 9

อรรถกถาสันธิเภทชาดกที่ 9


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
เปสุญญสิกขาบท จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า เนว
อิตฺถีสุ สามญฺญํ
ดังนี้.
ได้ยินว่า สมัยหนึ่งพระศาสดาได้ทรงสดับว่า ภิกษุฉัพพัคคีย์
นำความส่อเสียดป้ายร้ายเข้าไปให้ จึงรับสั่งให้เรียกภิกษุฉัพพัคคีย์
เหล่านั้นมาแล้วตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอนำความ
ส่อเสียดป้ายร้ายเข้าไปให้แก่พวกภิกษุผู้บาดหมาง ทะเลาะวิวาทกัน
จริงหรือ ? เพราะเหตุนั้น ความบาดหมางที่ยังไม่เกิดขึ้น และความ
บาดหมางที่เกิดขึ้นแล้วก็ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญยิ่งขึ้น เมื่อพวก
ภิกษุฉัพพัคคีย์ทูลรับว่าจริงพระเจ้าข้า จึงทรงติเตียนภิกษุเหล่านั้น
แล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ขึ้นชื่อว่าวาจาส่อเสียดคมกล้าประดุจ-
ประหารด้วยศาตรา ถึงความคุ้นเคยที่เหนียวแน่นมั่นคงก็แตกสลายไป
ได้โดยรวดเร็ว เพราะวาจาส่อเสียดนั้น ก็แหละชนผู้เชื่อถือวาจา
ส่อเสียดนั้นแล้วทำลายไมตรีของตนเสีย ย่อมเป็นเช่นกับราชสีห์และ
โคผู้ทีเดียว แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-