เมนู

8. อรัญญชาดก


ว่าด้วยการเลือกคบคน


[690] คุณพ่อ ผมออกจากป่าไปสู่บ้านแล้ว
พึงคบคนที่มีศีลอย่างไร มีวัตรอย่างไร
ผมถามแล้ว ขอคุณพ่อจงบอกข้อนั้นแก่
ผมด้วย.
[691] ลูกเอ๋ย ผู้ใดพึงคุ้นเคยกะเจ้าก็ดี พึง
อดทนความคุ้นเคยของเจ้าได้ก็ดี เชื่อถือ
คำพูดของเจ้าก็ดี งดโทษให้เจ้าก็ดี เจ้าไป
จากที่นี้แล้วจงคบหาผู้นั้นเถิด.
[692] ผู้ใดไม่มีกรรมชั่วด้วยกาย วาจาและใจ
เจ้าไปจากที่นี้แล้วจงคบหาผู้นั้น ทำตนให้
เหมือนบุตรผู้เกิดจากอกของผู้นั้นเถิด.
[693] ลูกเอ๋ย คนที่มีจิตเหมือนน้ำย้อมขมิ้น
มีจิตกลับกลอก รักง่ายหน่ายเร็ว เจ้าอย่า
คบหาคนเช่นนั้นเลย ถึงหากว่าพื้นชมพูทวีป
ทั้งหมดจะไม่มีมนุษย์ก็ตาม.

จบ อรัญญชาดกที่ 8

อรรถกถาอรัญญชาดกที่ 8


พระศาสดาเมื่อประโยคทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
การประเล้าประโยคโลมของกุมาริกาอ้วนคนหนึ่ง จึงตรัสพระธรรม-
เทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า อรญฺญา คามมาคมฺม ดังนี้.
เรื่องปัจจุบันจักมีแจ้งในจุลลนารทกัสสปชาดก. ส่วนเรื่องใน
อดีตมีดังต่อไปนี้.
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนคร-
พาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ เจริญวัยแล้ว
เรียนศิลปศาสตร์ในเมืองตักกศิลาแล้ว เมื่อภรรยาถึงแก่กรรมแล้ว
ได้พาบุตรไปบวชเป็นฤๅษีอยู่ในหิมวันตประเทศ ให้บุตรอยู่ใน
อาศรมบท. ส่วนตนไปเพื่อต้องการผลาผล. ครั้งนั้น เมื่อพวก
โจรปล้นปัจจันตคามแล้วพาพวกเชลยไป กุมาริกาคนหนึ่งหนีไปถึง
อาศรมบทนั้น ประเล้าประโลมดาบสกุมารให้ถึงศีลวินาศแล้วกล่าวว่า
มาเถิด พวกเราพากันไป. ดาบสกุมารกล่าวว่า จงรอให้บิดาของเรา
มาก่อน เราพบบิดาแล้วจักไป. กุมาริกากล่าวว่าถ้าอย่างนั้น ท่าน
พบบิดาแล้วจงมา แล้วได้ออกไปนั่งอยู่ที่ระหว่างทาง. เมื่อบิดามาแล้ว
ดาบสกุมาร จึงกล่าวคาถาที่ 1 ว่า :-
ข้าแต่พ่อ ฉันออกจากป่าไปสู่บ้านแล้ว
จะพึงคบคนที่มีศีลอย่างไร มีวัตรอย่างไร