เมนู

6. สุชาตาชาดก


ได้รับโทษเพราะประมาท


[522] ข้าแต่พระราชสวามีผู้ประเสริฐ ไข่ที่
เก็บไว้ในจานทองนี้เป็นไข่อะไร ลูกกลม
เกลี้ยงมีสีแดง หม่อมฉันทูลถามพระองค์
ถึงสิ่งนั้น โปรดตรัสบอกด้วย.
[523] ดูก่อนพระเทวี เมื่อก่อนนี้เธอเป็น
หญิงหัวโล้นนุ่งผ้าท่อนเก่า ๆ มือถือห่อพก
เลือกเก็บผลไม้อันใดอยู่ สิ่งที่ฉันรับประทาน
อยู่ ณ บัดนี้ เป็นผลไม้อันนั้น เป็นผลไม้
ประจำตระกูลของเธอ.
[524] หญิงทรามเมื่ออยู่ในราชสกุลนี้ ย่อม
ร้อนรนไม่รื่นรมย์ โภคสมบัติทั้งหลายก็ย่อม
ละเขาไปเสียสิ้น ท่านทั้งหลายจงช่วยกันนำ
หญิงทรามคนนั้นคืนไปไว้ที่ ๆ เขาจัดเก็บผล-
ไม้ประจำตระกูลขายเลี้ยงชีวิตได้ตามเดิม.
[525] ข้าแต่มหาราช โทษเพราะความประ-
มาทเหล่านี้ ย่อมมีได้แก่นารีผู้ได้รับยศ ข้า
แต่พระองค์ผู้สมมติเทพ ขอพระองค์ได้ทรง

โปรดอดโทษแด่พระนางสุชาดาเทวีเถิด ข้า
แต่พระองค์ผู้ปริเสริฐ ขอพระองค์อย่าได้
ทรงพระพิโรธแด่พระเทวีเลย.

จบ สุชาตาชาดกที่ 6

อรรถกถาสุชาตาชาดกที่ 6


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
พระนางมัลลิกาเทวี จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า กึ-
อณฺฑภา อิเม เทว
ดังนี้.
ได้ยินว่า วันหนึ่ง พระราชาได้มีการวิวาทโต้เถียงเรื่องสิริกับ
พระนางมัลลิกาเทวี. บางอาจารย์กล่าวว่า ทรงทะเลาะเรื่องที่บรรทม
ดังนี้ก็มี. พระราชาทรงกริ้วถึงกับไม่สนพระทัยกับพระนาง. ฝ่าย
พระนางมัลลิกาเทวีก็ทรงพระดำริว่า พระศาสดาเห็นจะไม่ทรงทราบว่า
พระราชาทรงพิโรธเรา. แม้พระศาสดาก็ทรงทราบ ทรงดำริว่า
จักกระทำพระราชาและพระเทวีนี้ให้สมัครสมานกัน ในเวลาเช้าจึง
ทรงนุ่งแล้วถือบาตรและจีวร มีภิกษุ 500 รูป เป็นบริวาร เสด็จเข้า
กรุงสาวัตถีแล้วได้เสด็จไปที่ประตูพระราชนิเวศน์. พระราชาทรงรับ
บาตรของพระตถาคตแล้วทูลนิมนต์เสด็จเข้าพระนิเวศน์ ให้ประทับนั่ง
บนอาสนะที่ปูลาดแล้ว ถวายน้ำทักษิโณทกแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธ-
เจ้าเป็นประธาน แล้วทรงนำข้าวยาคูและของควรเคี้ยวมาถวาย. พระ-