เมนู

5. สีลวิมังสชาดก


ความลับไม่มีในโลก


[518] ขึ้นชื่อว่าที่ลับ ย่อมไม่มีในโลก แก่คน
ผู้กระทำบาปกรรม ต้นไม้ที่เกิดในป่าก็ยังมี
คนเห็น คนพาลย่อมสำคัญบาปกรรมนั้นว่า
เป็นที่ลับ.
[519] ข้าพเจ้าย่อมไม่เห็นที่ลับ หรือแม้ที่ว่าง
เปล่าก็ไม่มี ในที่ใดว่างเปล่าข้าพเจ้าไม่เห็น
ใคร ที่นั้นก็ไม่ว่างเปล่าจากข้าพเจ้า.
[520] มาณพผู้ใหญ่ 6 คนนั้น คือ ทุชัจจ 1
สุชัจจะ 1 นันทะ 1 สุขวัจฉนะ 1 วัชณะ 1
อัทธุวสีละ 1 มีความต้องการธิดาของอาจารย์
พากันละธรรมเสีย.
[521] ส่วนพราหมณ์มาณพเป็นผู้ถึงฝั่งแห่งธรรม
ทั้งปวง มีปัญญามีความเพียรเครื่องก้าวหน้า
ในสัจจธรรม ตามรักษาธรรมไว้จะพึงละสตรี
ลาภเสียอย่างไรได้.

จบ สีลวีมังสชาดกที่ 5

อรรถกถาสีลวีมังสชาดกที่ 5


พระศาสดาเมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรง
ปรารภอุบายเครื่องข่มกิเลส จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้น
ว่า นตฺถิ โลเก รโห นาม ดังนี้.
เรื่องปัจจุบัน จักมีแจ้งในปัญจาลชาดก1 เอกาทสนิบาต. ส่วน
ในชาดกนี้ มีเนื้อความสังเขปดังต่อไปนี้:- ภิกษุประมาณ 500 รูป
อยู่ในภายในพระเชตวันวิหาร พากันตรึกกามวิตกในลำดับมัชฌิมยาม.
พระศาสดาทรงตรวจดู ภิกษุทั้งหลายเป็นนิตยกาล ในเวลาทั้งปวงทั้ง
เวลากลางคืนและกลางวัน เหมือนคนมีตาข้างเดียวรักษาตา คนผู้มีบุตร
คนเดียวรักษาบุตร จามรีชาติรักษาขนหางอ่อน ด้วยความไม่ประมาท
ฉะนั้น. ในกาลอันเป็นส่วนราตรี พระองค์ทรงตรวจดู ในพระเชตวัน
วิหาร ด้วยพระจักษุอันเป็นเพียงดังทิพย์ ทรงเห็นภิกษุเหล่านั้น
ประหนึ่งโจรอันเกิดขึ้นในภายในนิเวศน์ของพระเจ้าจักรพรรดิ จึงทรง
ปิดพระคันธกุฎีรับสั่งเรียกพระอานันทเถระมาแล้วตรัสว่า อานนท์
เธอจงให้ภิกษุทั้งหลายประชุมกัน ณ ภายในหอประชุมด้านสุด แล้ว
จงปูลาดอาสนะที่ประตูพระคันธกุฎี. พระอานันทเถระนั้นได้การทำ
อย่างนั้นแล้วกราบทูลพระศาสดาให้ทรงทราบ. พระศาสดาประทับนั่ง
บนอาสนะที่พระอานนท์ปูลาดแล้วทรงเตือนภิกษุทั้งหลายโดยรวมหมด
ด้วยกัน แล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โบราณกบัณฑิตทั้งหลาย
1. บางแห่งว่า ปารันชาดก