เมนู

2. พยัคฆชาดก


ว่าด้วยเรื่องของมิตร


[415] ความเกษมจากโยคะ ย่อมเสื่อมไป
เพราะการคบหากันมิตรคนใด บัณฑิตพึง
รักษาลาภยศและชีวิตของตน ที่มิตรนั้น
ครอบงำไว้เสียก่อน ดุจบุคคลผู้รักษาตาของ
ตนไว้ ฉะนั้น.
[416] ความเกษมจากโยคะ ย่อมเจริญเพราะ
การคบหากับมิตรคนใด บุรุษผู้ฉลาดในกิจ
ทั้งมวล พึงกระทำกิจทุกอย่างของกัลยาณ-
มิตรให้เหมือนของตน.
[417] ดูก่อนราชสีห์และเสือโคร่ง จงมาเถิด
ขอเชิญท่านทั้งสองจงกลับเข้าไปยังป่าใหญ่
พวกมนุษย์อย่ามาตัดป่าของเราให้ปราศจาก
ราชสีห์และเสือโคร่งเสียเลย ราชสีห์และ
เสือโคร่งอย่าได้เป็นผู้ไร้ป่า.

จบ พยัคฆชาดกที่ 2

อรรถกถาพยัคฆชาดกที่ 2


พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
โกกาลิกภิกษุ จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า เยน มิตฺเตน สํสคฺคา
ดังนี้. เรื่องพระโกกาลิกะจักมีแจ้งในตักการิยชาดก เตรสนิบาต.
พระโกกาลิกะคิดว่า จักไปพาพระสารีบุตรและพระโมค-
คัลลานะมา จึงออกจากกาสิกรัฐไปยังพระวิหารเชตวัน ถวายบังคม
พระศาสดา แล้วเข้าไปหาพระเถระทั้งสอง แล้วกล่าวว่า ข้าแต่ท่าน
ผู้อาวุโส มนุษย์ชาวแว่นแคว้นเรียกหาท่านทั้งหลาย มาเถิดท่าน
เราทั้งหลายจะได้ไปด้วยกัน. พระเถระทั้งสองกล่าวว่า ไปเถอะคุณ
พวกเรายังจะไม่ไป. พระโกกาลิกะนั้นอันพระเถระทั้งสองปฏิเสธแล้ว
จึงได้ไปโดยลำพังตนเอง. ลำดับนั้น ภิกษุทั้งหลายนั่งสนทนากันใน
โรงธรรมสภาว่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย พระโกกาลิกะไม่อาจเป็นไปร่วม
หรือเว้นจากพระสารีบุตรและพระโมคคัลานะ แม้ร่วมก็อดกลั้นไม่
ได้ แม้พลัดพรากก็อดกลั้นไม่ได้. พระศาสดาเสด็จมาแล้วตรัสถามว่า
ภิกษุทั้งหลาย. บัดนี้พวกเธอนั่งประชุมกันด้วยเรื่องอะไรหนอ ? เมื่อ
ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ด้วยเรื่องชื่อนี้พระเจ้าข้า จึงตรัสว่า มิใช่
ในบัดนี้เท่านั้นดอกนะภิกษุทั้งหลาย แม้ในกาลก่อน พระโกกาลิกะนี้
ไม่อาจอยู่ร่วมหรือเว้นจากพระสารีบุตระเละพระโมคคัลลานะได้แล้ว
ทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :-