เมนู

10. มหาปิงคลชาดก



ว่าด้วยพระเจ้าปิงคละผู้ร้ายกาจ


[329] ชนทั้งปวงถูกพระเจ้าปิงคละเบียดเบียน
แล้ว เมื่อพระเจ้าปิงคละนั้นสวรรคตแล้ว ชนทั้ง
หลายก็ได้ความยินดี ดูก่อนนายประตู พระเจ้า
ปิงคละผู้ไม่มีพระเนตรดำ เป็นที่รักของท่านหรือ
เพราะเหตุไรจึงได้ร้องไห้หนอ.
[330] พระเจ้าปิงคละผู้ไม่มีเนตรดำ จะเป็นที่รัก
ของข้าพเจ้าก็หามิได้ แต่ข้าพเจ้ากลัวว่าพระเจ้า
ปิงคละนั้นจะกลับเสด็จมาอีก พระเจ้าปิงคละ
เสด็จไปจากมนุษยโลกนี้แล้ว ก็จะเบียดเบียน
พระยามัจจุราช พระยามัจจุราชนั้นถูกพระเจ้า
ปิงคละเบียดเบียนแล้ว ก็จะพึงนำมาส่งมนุษยโลก
นี้อีก.
[331] พระเจ้าปิงคละนั้น พวกเราช่วยกันเผา
แล้ว ด้วยฟืนพันเล่มเกวียน รดด้วยน้ำหลายร้อย
หม้อ พื้นที่ดินนั้นเราป้องกันไว้อย่างดีแล้ว ท่าน
อย่ากลัวเลย พระเจ้าปิงคละจักไม่เสด็จกลับมา
อีก.

จบ มหาปิงคลชาดกที่ 10

อรรถกถามหาปิงคชาดกที่ 10



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรง
ปรารภพระเทวทัต ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า
สพฺโพ ชโน ดังนี้.
เมื่อพระเทวทัตผูกอาฆาตพระศาสดา จมลงไปในแผ่นดิน
ใกล้ซุ้มพระทวารพระเชตวันมหาวิหารล่วงไปได้เก้าเดือน ชาว
กรุงสาวัตถีและชาวแว่นแคว้นทั้งสิ้น ต่างร่าเริงยินดีว่า พระ-
เทวทัตผู้เป็นเสี้ยนหนามของพระพุทธองค์ ถูกแผ่นดินสูบแล้ว
บัดนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงกำจัดศัตรูได้แล้ว. ชาวชมพูทวีป
ทั้งสิ้น และหมู่ยักษ์ ภูตและเทวดาทั้งหลาย ต่างก็พากันรื่นเริง
ยินดี กล่าวกันอย่างนั้นเหมือนกัน.
อยู่มาวันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายประชุมกันในโรงธรรมว่า
ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย เมื่อพระเทวทัตจมลงในแผ่นดิน มหาชน
ต่างก็ดีใจว่า พระเทวทัตผู้เป็นเสี้ยนหนามของพระพุทธองค์ถูก
แผ่นดินสูบแล้ว. พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย บัดนี้พวกเธอนั่งประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไร
เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว จึงตรัสว่า ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเทวทัตตาย มหาชนยินดี ร่าเริง มิใช่ในบัดนี้
เท่านั้น แม้เมื่อก่อนมหาชนก็ยินดี ร่าเริงเหมือนกัน แล้วทรงนำ
เรื่องอดีตมาตรัสเล่า