เมนู

2. วีณาถูณชาดก



รักคนผิด


[313] เรื่องนี้เจ้าคิดคนเดียว บุรุษเตี้ยค่อมผู้โง่
เขลานี้จะนำทางไปไม่ได้แน่ ดูก่อนเจ้าผู้เจริญ
เจ้าไม่สมควรจะไปกับบุรุษเตี้ยค่อมผู้นี้เลย.
[314] ดิฉันเข้าใจว่าบุรุษค่อมเป็นผู้องอาจ จึง
ได้รักใคร่บุรุษค่อมผู้นี้ นอนตัวงออยู่ ดุจคันพิณ
ที่มีสายขาดแล้ว ฉะนั้น.

จบ วีณาถูณชาดกที่ 2

อรรถกถาวีณาถูณชาดกที่ 2



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรง
ปรารภกุมาริกาผู้หนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า
เอกจินฺติโต อยมตฺโถ ดังนี้.
ได้ยินว่า กุมาริกานั้นเป็นธิดาเศรษฐีผู้หนึ่ง ในกรุง
สาวัตถี เห็นเครื่องสักการะที่เขาทำแก่โคอุสภราชในบ้านของ
ตน จึงถามพี่เลี้ยงว่า แน่ะแม่ นั่นชื่อไร จึงได้เครื่องสักการะ
อย่างนี้. พี่เลี้ยงตอบว่า ชื่อโคอุสภราชจ้ะ. ครั้นวันหนึ่งนางยืน
อยู่ตรงหน้าต่างแลดูระหว่างถนนเห็นชายค่อมผู้หนึ่งคิดว่า โค
ที่เป็นใหญ่ในหมู่โคย่อมมีโหนกที่หลัง แม้มนุษย์ผู้เป็นใหญ่ก็คง

มีโหนกเช่นเดียวกัน บุรุษผู้นี้คงเป็นบุรุษอุสภราชเป็นแน่ เรา
ควรเป็นบาทบริจาริกาของบุรุษนี้. นางจึงใช้ทาสีไปบอกแก่ชาย
ค่อมว่า ธิดาเศรษฐีอยากจะไปกับท่าน ท่านจงไปรออยู่ ณ ที่โน้น
แล้วถือเอาของมีค่าปลอมตัวไม่ให้ใครรู้จักลงจากปราสาทหนีไป
กับชายค่อมนั้น. ต่อมา การกระทำของธิดาเศรษฐีนั้นได้ปรากฏ
กันในนครและหมู่ภิกษุ. ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในโรงธรรม
ว่า อาวุโสทั้งหลาย ได้ยินว่าธิดาเศรษฐีชื่อโน้นหนีไปกับชายค่อม.
พระศาสดาเสด็จมาตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้พวก
เธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไร เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้
ทรงทราบแล้ว จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธิดาเศรษฐีนั้น
มิใช่ปรารถนาชายค่อมในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อนก็ปรารถนา
เหมือนกัน แล้วทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.
ในอดีตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ใน
กรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลเศรษฐีในตำบล
หนึ่ง ครั้นเจริญวัยแล้วมีครอบครัว เจริญด้วยบุตรธิดาทั้งหลาย
จึงได้ขอธิดาของเศรษฐีกรุงพาราณสีให้แก่บุตรของตน กำหนด
วันกันแล้ว. ธิดาเศรษฐีเห็นเครื่องสักการะ สัมมานะของโค
อุสภราชที่เรือนของตน จึงถามพี่เลี้ยงว่า สัตว์นี้ชื่ออะไร ได้
ฟังว่า โคอุสภราช ครั้นเห็นชายค่อมเดินอยู่ระหว่างถนน คิดว่า
ชายนี้คงเป็นบุรุษอุสภราช จึงถือห่อของมีค่าหนีไปกับชายค่อม
นั้น. ฝ่ายพระโพธิสัตว์คิดว่าจักนำธิดาเศรษฐีมาเรือน จึงไปยัง

กรุงพาราณสีกับบริวารเป็นอันมาก เดินทางไปทางนั้นเหมือน
กัน. ฝ่ายชายค่อมกับธิดาเศรษฐี ทั้งคู่นั้นเดินทางกันตลอดคืน.
ครั้งนั้น ชายค่อมซึ่งถูกความหนาวเบียดเบียนตลอดคืน ได้เกิด
โรคลมกำเริบขึ้นในร่างกาย ในเวลาอรุณขึ้น เกิดทุกขเวทนา
สาหัส. เขาจึงแวะลงจากทางทนทุกขเวทนานอนขดตัวดังคันพิณ.
ฝ่ายธิดาเศรษฐีก็นั่งอยู่ที่ใกล้เท้าของเขา. พระโพธิสัตว์เห็น
ธิดาเศรษฐีนั่งอยู่ที่ใกล้เท้าชายค่อมจำได้จึงเข้าไปหา. เมื่อจะ
สนทนากับธิดาเศรษฐี ได้กล่าวคาถาแรกว่า :-
เรื่องนี้เจ้าคิดคนเดียว บุรุษเตี้ยค่อมผู้
โง่เขลานี้จะนำทางไปไม่ได้แน่ ดูก่อนเจ้าผู้เจริญ
เจ้าไม่สมควรจะไปกับบุรุษเตี้ยค่อมผู้นี้เลย.

ในบทเหล่านั้น บทว่า เอกจินฺติโต อยมตฺโถ ความว่า แน่ะ
แม่เจ้า คิดประโยชน์อันใดจึงได้หนีไปกับชายค่อมนี้ ประโยชน์
อันนั้นเจ้าคงจะคิดคนเดียว. บทว่า พาโล อปริณายโก ความว่า
เพราะว่าชายค่อมผู้เป็นพาลนี้ โดยที่มีปัญญาทรามถึงจะแก่ก็
ยังโง่ จะเป็นเมื่อไม่มีผู้อื่นพาไปก็ไม่สามารถจะพาไปได้. แน่ะ
นางผู้เจริญ เจ้าก็เกิดในตระกูลใหญ่มีรูปงามน่าเอ็นดู จึงไม่ควร
ไปกับชายค่อมผู้ต่ำต้อยเพราะเตี้ยนี้.
ลำดับนั้น ธิดาเศรษฐีฟังคำของพระโพธิสัตว์แล้ว กล่าว
คาถาที่ 2 ว่า :-

ดิฉันเข้าใจว่าบุรุษค่อมเป็นผู้องอาจ จึงได้
รักใคร่บุรุษค่อมผู้นี้นอนตัวงออยู่ ดุจคันพิณที่มี
สายขาดแล้ว ฉะนั้น.

เนื้อความแห่งคาถานั้นว่า ข้าแต่ท่านเจ้า ข้าพเจ้าเห็น
โคอุสภราชตัวหนึ่ง คิดว่าโคที่เป็นใหญ่กว่าโคทั้งหลายมีโหนก
ที่หลัง แม้บุรุษนี้ก็มีโหนกนั้น คงจะเป็นบุรุษอุสภราช ข้าพเจ้า
เข้าใจชายค่อมว่าเป็นบุรุษอุสภราชจึงรักใคร่ ชายค่อมนี้นั้น
นอนตัวงออยู่เหมือนคันพิณที่สายขาดมีแต่ราง ฉะนั้น.
พระโพธิสัตว์ทราบว่า นางปลอมตัวหนีมาจึงให้อาบน้ำ
ตกแต่งตัวให้ขึ้นรถไปยังเรือนของตน.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุม
ชาดก. ธิดาเศรษฐีในครั้งนั้น ได้เป็นธิดาเศรษฐีในครั้งนี้นี่แหละ
ส่วนพระราชากรุงพาราณสี คือเราตถาคตนี้แล.
จบ อรรถกถาวีณาถูณชาดกที่ 2

3. วิกัณณกชาดก



คนเห็นแก่อามิสย่อมเดือดร้อน


[315] เจ้าปรารถนาในที่ใด ก็จงไปในที่นั้นเถิด
เจ้าเป็นผู้ถูกชะนักของเราแทงแล้ว เจ้าเป็นผู้โลภ
ด้วยอาหารแท้ เมื่อติดตามปลาทั้งหลายมาก็ถูก
อาหารมีเสียงกลองกำจัดเสียแล้ว.
[316] บุคคลเห็นแก่โลกามิสแม้อย่างนี้ ชอบ
ประพฤติตามอำนาจของจิต ย่อมเดือดร้อน เขา
ย่อมเดือดร้อนอยู่ในท่ามกลางหมู่ญาติและสหาย
ดุจจระเข้ผู้ติดตามปลาไปถูกแทง ฉะนั้น.

จบ วิกัณณกชาดกที่ 3

อรรถกถาวิกัณณกชาดกที่ 3



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรง
ปรารภภิกษุกระสันรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า กามํ
ยหึ อิจฺฉสิ เตน คจฺฉ
ดังนี้.
ความย่อมีว่า ภิกษุรูปนั้นถูกนำไปยังธรรมสภา พระ-
ศาสดาตรัสถาม ดูก่อนภิกษุ ได้ยินว่าเธอกระสันจริงหรือ กราบ
ทูลว่า จริงพระเจ้าข้า ตรัสถามว่า เธอกระสันเพราะเหตุใด.
กราบทูลว่า เพราะเหตุกามคุณ. ลำดับนั้นพระศาสดาจึงตรัสว่า