เมนู

กัน. ลำดับนั้น นกกระจาบตัวหนึ่งพูดว่า เขาว่า เมื่อท่านยกข่ายขึ้นเท่านั้น
ขนบนหัวจึงร่วง บัดนี้ ท่านจงยกขึ้น. นกกระจาบอีกตัวหนึ่งพูดว่า ข่าวว่า
เมื่อท่านมัวแต่ยกข่ายขึ้น (จน) ขนปีกทั้งสองข้างร่วงไป บัดนี้ท่านจงยกขึ้น.
ดังนั้น เมื่อนกกระจาบเหล่านั้น มัวแต่พูดว่า ท่านจงยกขึ้น ท่านจงขึ้น นาย
พรานนกมารวบเอาข่าย ให้นกกระจาบเหล่านั้นทั้งหมดมารวมกันแล้วใส่เต็ม
กระเช้า ได้ไปเรือน ทำให้ภรรยาร่าเริงใจ.
พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนมหาบพิตรทั้งหลาย ชื่อว่าความทะเลาะแห่ง
พระญาติทั้งหลายไม่ควรอย่างนี้ เพราะความทะเลาะเป็นมูลเหตุแห่งความพินาศ
ถ่ายเดียว แล้วทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาสืบต่ออนุสนธิกันแล้ว ทรงประชุม
ชาดกว่า นกกระจาบตัวที่ไม่เป็นบัณฑิตในครั้งนั้น ได้เป็นพระ-
เทวทัต ส่วนนกกระจาบตัวที่เป็นบัณฑิตในครั้งนั้น ได้เป็นเราแล.

จบสัมโมทมานชาดกที่ 3

4. มัจฉาชาดก



ว่าด้วยความหึงหวง



[34] ความเย็น ความร้อน และการติดอยู่ใน
แห ไม่ได้เบียดเบียนเราให้ได้รับทุกข์เลย แต่ข้อที่
นางปลาสำคัญว่า เราไปหลงนางปลาตัวอื่นนั่นแหละ
เบียดเบียนเราให้ได้รับทุกข์.

จบมัจฉาชาดกที่ 4

4. อรรถกถามัจฉาชาดก



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระวิหารเชตวัน ทรงปรารภการประเล้า
ประโลมของภรรยาเก่า จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า น มํ สีตํ
น มํ อณฺหํ
ดังนี้.
ความพิศดารว่า ในกาลนั้น พระศาสดาตรัสถามภิกษุนั้นว่า ดูก่อน
ภิกษุ ได้ยินว่าเธอเป็นผู้กระสันจะสึกจริงหรือ ? ภิกษุนั้นกราบทูลว่า ข้าแต่
พระผู้มีพระภาคเจ้า จริง พระเจ้าข้า. พระศาสดาตรัสถามว่า เพราะเหตุไร
เธอจึงเป็นผู้กระสันจะสึก? ภิกษุนั้นกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภรรยา
เก่าของข้าพระองค์เป็นผู้มีรสมืออร่อย ข้าพระองค์ไม่อาจละนาง พระเจ้าข้า.
ลำดับนั้น พระศาสดาได้ตรัสกะภิกษุนั้นว่า ดูก่อนภิกษุหญิงนั่นเป็นผู้กระทำ
ความฉิบหายแก่เธอ แม้ในกาลก่อน เธอเมื่อจะถึงความตายก็เพราะอาศัยหญิง
นั่น แต่พ้นจากความตายเพราะอาศัยเรา แล้วทรงนำเรื่องอดีตนิทานมา ดัง
ต่อไปนี้
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในนครพาราณสี
พระโพธิสัตว์ได้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าพรหมทัตนั้น ในกาลนั้น พวกชาว
ประมงได้ทอดแหอยู่ในแม่น้ำ ครั้งนั้น มีปลาใหญ่ตัวหนึ่งมาเล่นอยู่กับนางปลา
ของตนด้วยความยินดี. นางปลานั้นว่ายไปข้างหน้าของปลาใหญ่นั้น ได้กลิ่น
แห จึงเลี้ยงแหไป. ส่วนปลาใหญ่นั้นติดในกามเป็นปลาโลเล ได้เข้าไปยัง
ท้องแหนั่นเอง. พวกชาวประมงรู้ว่าปลาใหญ่นั้นเข้าไปติดแห จึงยกแหขึ้นจับ
เอาปลา ไม่ฆ่า โยนไปบนหลังทราย คิดว่าจักปิ้งปลานั้นกิน จึงก่อไฟถ่าน
เสี้ยมไม้แหลม ปลาคร่ำครวญอยู่ว่า การย่างบนถ่านไฟหรือการเสียบด้วยไม้