เมนู

นิคมคาถา


คาถาท้ายอรรถกถาเถรีคาถา


ด้วยกถาพรรณนาความดังกล่าวมาฉะนี้
พระสาวกเหล่านั้นใด มีพระสัทธรรมพรั่งพร้อม
เป็นบุตรเกิดแต่พระอุระ เกิดแต่พระโอษฐ์ ของพระ-
ศาสดาผู้เป็นจอมทัพธรรม เป็นทายาท ลูกเนรมิตโดย
ธรรม สมบูรณ์ด้วยคุณมีศีลเป็นต้น เป็นผู้เสร็จกิจแล้ว
ไม่มีอาสวะ เป็นพระเถระก็มี เช่นท่านพระสุภูติเป็น
ต้น เป็นพระเถรีก็มี เช่นพระเถริกาเป็นต้น พระสาวก
เหล่านั้นกล่าวคาลาเหล่าใดไว้ ด้วยวิธีพยากรณ์พระ-
อรหัตเป็นต้น.
พระมหาเถระทั้งหลาย [พระสังคีติกาจารย์ผู้
ทำปถมสังคายนา 500 องค์] ช่วยกันรวบรวมคาถา
เหล่านั้นทั้งหมด ยกขึ้นสู่บาลีสังคายนา ชื่อว่าเถร-
คาถา เถรีคาถา.
เพื่อประกาศความของเถรคาถาและเถรีคาถาเหล่า
นั้น ข้าพเจ้าอาศัยนัยที่มาในอรรถกถาเดิม จึงเริ่มแต่ง
อรรถสังวรรณนาอันใด อรรถสังวรรณนาอันนั้น
ประกาศอรรถอันยอดเยี่ยมในเถรคาถาและเถรีคาถา
นั้น ตามความเหมาะสมในที่นั้น ๆ โดยชื่อว่าปรมัตถ-

นีปนีมีวินิจฉัยอันไม่สับสน ก็ถึงการจบลง โดยบาลี
ประมาณ 92 ภาณวาร.
ดังนั้น บุญนั้นใด อันข้าพเจ้าผู้แต่งคัมภีร์ปร-
มัถถทีปนีนั้น ได้ประสบแล้ว ด้วยอานุภาพแห่งบุญ
นั้น ขอสัตว์ทั้งปวง หยั่งลงถึงศาสนาของพระโลก-
นาถ ด้วยข้อปฏิบัติมีศีลเป็นต้นอันบริสุทธิ์ จงเป็นภาคี
มีส่วนแห่งวิมุตติรส.
ขอศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงดำรง
อยู่ยั่งยืนในโลก ขอสรรพสัตว์ จงมีความเคารพใน
ศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็นเนืองนิจ.
ขอฝนจงตกต้องตามฤดูกาล
ขอพระเจ้าแผ่นดิน ผู้ทรงยินดีเป็นนิจในพระ-
สัทธรรม โปรดทรงปกครองสัตวโลก โดยธรรมเทอญ.

จบกถาพรรณนาความแห่งเถรีคาถา ซึ่งท่านพระอาจารย์ธรรมปาล-
เถระ
ผู้อยู่ พทรติตถวิหาร [วัดท่าพุทรา] รจนาไว้.
อรรถกถาเถรีคาถา จบบริบูรณ์