เมนู

เถรีคาถา มหานิบาต


สุเมธาเถรีคาถา


[474] พระสุเมธาเถรี กล่าวคาถาเหล่านี้เป็นอุทานคาถาว่า
ข้าพเจ้าเป็นธิดาของพระอัครมเหสีของพระเจ้า-
โกญจะ กรุงมันตาวดี ชื่อว่า สุเมธา อันพระอริยะ
ทั้งหลายผู้ทำตามคำสั่งสอนทำให้เลื่อมใสแล้ว พระนาง
สุเมธามีศีล กล่าวธรรมได้วิจิตร เป็นพหูสูต ถูกแนะนำ
ในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เข้าเฝ้าพระชนกชนนี
กราบทูลว่า ขอพระชนกชนนีทั้งสองพระองค์ โปรด
ตั้งพระทัยสดับคำของลูก.
ลูกยินดีอย่างยิ่งในพระนิพพาน ภพถึงแม้ว่าจะ
เป็นทิพย์ ก็ไม่ยั่งยืน จะป่วยกล่าวไปไยถึงกามทั้งหลาย
ซึ่งเป็นของว่างเปล่า อร่อยน้อย คับแค้นมาก.
กามทั้งหลายเผ็ดร้อน เปรียบด้วยงูพิษ ที่พวก
คนเขลาพากันจมดักดาน คนเขลาเหล่านั้นแออัดกันใน
นรก ต้องเดือดร้อนเป็นทุกข์เป็นเวลาช้านาน.
พวกคนเขลา ผู้ไม่สำรวมกายวาจาใจ ทำกรรม
ที่เป็นบาป พอกพูนแต่บาป ย่อมเศร้าโศกในอบาย
ทุกเมื่อ.

คนเขลาเหล่านั้น ไม่มีปัญญา ไม่มีเจนนา ถูก
ทุกข์และสมุทัยปิดไว้ เมื่อไม่รู้อริยธรรมที่ท่านแสดง
ก็ไม่ตรัสรู้อริยสัจ.
ทูลกระหม่อมแม่เจ้าขา คนเขลาเหล่าใดเมื่อไม่
รู้สัจจะทั้งหลาย ที่พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐทรงแสดง
แล้ว ยังชื่นชมภพ กระหยิ่มการเกิดในหมู่เทพทั้งหลาย
คนเขลาเหล่านั้นมีจำนวนมากกว่าเพคะ.
เมื่อภพไม่เที่ยง ความเกิดในหมู่เทพทั้งหลายก็
ไม่ยั่งยืน พวกคนเขลา ย่อมไม่หวาดสะดุ้งต่อคนที่
ต้องเกิดบ่อย ๆ.
อบาย 4 สัตว์ทั้งหลายย่อมได้กันสะดวก ส่วน
คติ 2 ได้กันลำบาก, ในนรกของเหล่าสัตว์ที่เข้าถึง
อบาย ไม่มีการบวชดอกเพคะ.
ขอพระชนกชนนีทั้งสองพระองค์ โปรดทรง
อนุญาตให้ลูกบวชในธรรมวินัยของพระทศพลเถิด
เพคะ ลูกจักขวนขวายน้อย พากเพียรเพื่อละชาติและ
มรณะ.
จะมีประโยชน์อะไร ด้วยโทษคือกายที่ไร้สาระ
นั้น ซึ่งพวกคนเขลาชื่นชมนักหนา ขอทรงโปรด
อนุญาตเถิด ลูกจักบวชเพื่อดับภวตัณหา ความอยาก
ในภพ.

ความอุบัติของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ลูกได้แล้ว
อขณะก็เว้นไปแล้ว ขณะลูกก็ได้แล้ว ลูกจะไม่ประ-
ทุษร้ายศีลและพรหมจรรย์ตลอดชีวิต.
พระนางสุเมธากราบทูลพระชนกชนนีอย่างนี้ว่า
ลูกยังเป็นคฤหัสถ์ จักไม่เสวยอาหาร จักยอมตายเพคะ
พระชนนีทรงเป็นทุกข์ ทรงกันแสง พระชนก
ของพระนางสุเมธานั้น พระอัสสุชลก็นองทั่วทั้งพระ-
พักตร์ ทั้งสองพระองค์ทรงพากเพียรเกลี้ยกล่อมพระ-
นางสุเมธา ซึ่งฟุบลงที่พื้นปราสาทว่า
ลูกเอ๋ย ลุกขึ้นสิ จะเศร้าโศกไปทำไม พ่อยกลูก
ให้ที่กรุงวารณวดีแล้วนะลูก พระเจ้าอนิกรัตตะทรง
งามสง่า พ่อยกลูกถวายพระองค์แล้ว.
ลูกจักเป็นเอกอัครมเหสีของพระเจ้าอนิกรัตตะ
ศีล พรหมจรรย์ บรรพชา ทำได้ยากนะลูกนะ.
อำนาจ ทรัพย์ ความเป็นใหญ่ โภคะ สุข ใน
ราชสมบัติ ทั้งลูกก็ยังเป็นสาว จงบริโภคกามเถิด.
ลูกจงวิวาหะเสียนะลูกนะ.
พระนางสุเมขากราบทูลพระชนกชนนีนั้นว่า
อำนาจเป็นต้นเช่นนี้ อย่ามีมาเลย เพราะภพหาสาระ
มิได้ การบวชหรือความตายเท่านั้นจักมีแก่ลูก ลูกไม่
ยอมวิวาทะแน่แท้.


กายอันเน่าเหมือนหนอน ไม่สะอาดกลิ่นเหม็น
คลุ้งไป น่าสะพรึงกลัว ดุจถุงหนึ่งบรรจุซากศพ เป็น
ด้วยของไม่สะอาด ไหลออกอยู่เป็นนิตย์ อันคนเขลา
ยึดถืออยู่.
ลูกรู้จักซากศพนั้นเป็นเหมือนอะไร เป็นเหมือน
ของปฏิกูล ฉาบด้วยเนื้อและเลือดเป็นที่อยู่ของลูก
หลานหนอน เป็นอาหารของแร้งกา ทำไม ทูล-
กระหม่อมจึงพระราชทานกเฬวรากซากศพ แก่พระ
ราชาพระองค์นั้นเล่าเพคะ.
ไม่ช้าร่างกายที่ปราศจากวิญญาณ อันหมู่ญาติผู้
เกลียดทอดทิ้งไปเหมือนท่อนไม้ เขาก็พากันนำไปป่าช้า.
บิดามารดาของตนยังเกลียด ครั้นเอาซากศพ
นั้นไปทิ้งให้เป็นอาหารสัตว์อื่นในป่าช้าแล้ว กลับมาก็
ต้องอาบน้ำดำเกล้า จะป่วยกล่าวไปไยถึงหมู่ชนทั่ว ๆ
ไปเล่า.
หมู่ชนยึดถืออยู่ในซากศพที่ไม่มีแก่นสาร เป็น
ร่างของกระดูกและเอ็น เป็นกายอันเน่า เต็มไปด้วย
น้ำลาย น้ำตา และอุจจาระ.
ผู้ใดพึงชำแหละร่างกายนั้นเอาข้างในมาไว้ข้าง-
นอก ก็จะทนกลิ่นเหม็นของร่างกายนั้น ไม่ได้ แม้แต่
มารดาของตนก็ยังเกลียด.
บัณฑิตทั้งหลาย เลือกเฟ้นโดยอุบายอันแยบคาย
ว่า ขันธ์ ธาตุ อายตนะ อันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว เป็น

ทุกข์ ที่มีชาติเป็นมูล ทำไม ลูกจึงยังจะปรารถนา
วิวาหะเล่าเพคะ.
หอก 300 เล่ม ใหม่เอี่ยม จะพึงตกต้องที่กาย
ทุกๆ วัน ทิ่มแทงอยู่ถึง 100 ปี ยังประเสริฐกว่า
หากว่าความสิ้นทุกข์จะพึงมีได้ด้วยอาการอย่างนี้.
ชนใด รู้คำสั่งสอนของพระศาสดาอย่างนี้ พึง
ยอมรับการทิ่มแทง [ดังกล่าว] สังสารวัฏย่อมยืดยาว
สำหรับ ชนเหล่านั้นซึ่งเดือดร้อนอยู่ร่ำไป.
ในเทวดา มนุษย์ ในกำเนิดสัตว์เดียรฉาน หมู่
อสุรกาย เปรตดและสัตว์นรก การทำร้ายกันยังปรากฏ
อยู่หาประมาณมิได้.
สำหรับสัตว์อยู่ในอบาย ทำกำลังถูกเบียดเบียน
ยังมีการทำร้ายกันเป็นอันมากในนรก แม้ในเทวดา
ทั้งหลายก็ช่วยไม่ได้ สุขนอกจากสุขคือพระนิพพาน
ไม่มีเลย.
ชนเหล่าใด ประกอบอยู่ในพระธรรมวินัยของ
พระทศพล ขวนขวายน้อย พากเพียรเพื่อละชาติ
มรณะ ชนเหล่านั้นก็ถึงพระนิพพาน.
ทูลกระหม่อมพ่อเพคะ วันนี้นี่แหละลูกจักออก
บวช ประโยชน์อะไรด้วยโภคะทั้งหลายที่ไม่มีแก่นสาร
กามทั้งหลายลูกเบื่อหน่ายแล้ว ลูกทำให้เสมอด้วยราก
สุนัข ทำให้เหมือนตาลยอดด้วนแล้ว.

พระนางสุเมธานั้น กราบทูลพระชนกอยู่อย่างนี้
พระเจ้าอนิกรัตตะ ผู้ที่ได้รับพระราชทานพระนางสุ-
เมธานั้น ทรงแวดล้อมด้วยข้าราชบริพารหนุ่ม ก็เสด็จ
เข้าสู่วิวาหะเมื่อเวลากระชั้นชิด.
ภายหลัง พระนางสุเมธาทรงทราบว่า พระเจ้า-
อนิกรัตตะเสด็จมา จึงใช้พระขรรค์ตัดพระเกศาอันดำ
สนิทที่รวบไว้ อ่อนสลวย ทรงปิดปราสาท เข้าปฐม-
ฌาน
พระนางสุเมธานั้น เข้าฌานอยู่ในปราสาทนั้น
พระเจ้าอนิกรัตตะก็เสด็จถึงพระนคร พระนางสุเมธา
ทรงเจริญอสุภสัญญาอยู่ในปราสาท.
พระนางสุเมธานั้นกำลังทรงมนสิการ พระเจ้า
อนิกรัตตะ ทรงแต่งพระองค์ด้วยมณีและทอง ก็รีบ
เสด็จขึ้นปราสาท ทรงประคองอัญชลี ทูลวอน
พระนางสุเมธาว่า
อำนาจ ทรัพย์ ความเป็นใหญ่ โภคะ สุขใน
ราชสมบัติ ขอมอบถวาย พระน้องนางก็ยังสาวอยู่
ขอเชิญบริโภคกามสมบัติ กามสุขหาได้ยากในโลก
นะพระน้องนาง.
ราชสมบัติพี่สละให้พระน้องนางแล้ว ขอพระ-
น้องนางโปรดบริโภคโภคะ ถวายทานทั้งหลายเถิด
พระน้องนางอย่าทรงเสียพระทัยเลย พระชนกชนนี้
ของพระน้องนางทรงเป็นทุกข์.

เพราะเหตุนั้น พระนางสุเมธา ผู้ไม่ต้องการ
ด้วยกามทั้งหลาย ทรงปราศจากโมหะแล้วจึงทูลพระ-
เจ้าอนิกรัตตะว่าอย่าทรงเพลิดเพลินกามเลย โปรดทรง
เห็นโทษในกามทั้งหลายเถิดเพคะ.
พระเจ้ามันธาตุราช เจ้าทวีปทั้ง 4 ทรงเป็นยอด
ของผู้บริโภคกามทั้งหลายยังไม่ทันทรงอิ่ม ก็เสด็จ
สวรรคตไปแล้ว ความปรารถนาของพระองค์ ก็ยัง
ไม่เต็ม.
เทวดาแห่งฝนพึงหลั่งฝนคือรัตนะ 7 ลงมาโดย
รอบทั้ง 10 ทิศ ความอิ่มด้วยกามทั้งหลาย ก็ไม่มี
นรชนทั้งหลาย ทั้งที่ยังไม่อิ่มก็พากันตายไป.
กามทั้งหลาย เปรียบด้วยดาบและหลาว เปรียบ
ด้วยหัวงูเห่า เปรียบด้วยคบเพลิง ตามเผาอยู่ เปรียบ
ด้วยร่างกระดูก.
กามทั้งหลายไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน มีทุกข์มาก มี
พิษมาก เป็นมูลแห่งทุกข์ มีทุกข์เป็นผลเหมือน
ก้อนเหล็กที่ร้อนโชน.
กามทั้งหลายเปรียบด้วยผลไม้ เปรียบด้วยชิ้น
เนื้อ เป็นทุกข์ กามทั้งหลายเปรียบด้วยความฝัน
หลอกลวง เปรียบด้วยของที่ยืมเขามา.
กามทั้งหลาย เปรียบด้วยหอกและหลาวเป็นโรค
เป็นฝี เป็นทุกข์ เป็นความลำบาก เสมือนหลุมถ่าน
เพลิง เป็นมูลแห่งทุกข์ เป็นภัย เป็นเพชฆฆาต [ผู้ฆ่า]

กามทั้งหลายมีทุกข์มากดังกล่าวมานี้ บัณฑิตทั้ง
หลายจึงกล่าวว่าทำอันตราย เชิญเสด็จกลับไปเสียเถิด
หม่อมฉันไม่พิศวาสในความมีโชคของพระองค์ดอก
เพคะ.
เมื่อไฟกำลังไหม้ศีรษะของหม่อมฉันอยู่ คนอื่น
จะช่วยอะไรหม่อมฉันได้ เมื่อชรามรณะติดตามอยู่ ก็
ควรพยายามทำลายชรามรณะนั้นเสีย.
ข้าพระองค์เห็นพระชนกชนนี และพระเจ้าอนิก-
รัตตะเสด็จยังไม่ทันถึงพระทวาร ก็ประทับนั่งที่พื้นดิน
ทรงพระกันแสง จึงกราบทูลดังนี้ว่า สังสารวัฏ ย่อมยืด
ยาวสำหรับ พวกคนเขลา ที่ร้องไห้บ่อย ๆ เพราะบิดา
ตาย พี่ชายถูกฆ่า เพราะตัวเองถูกฆ่า ในสังสารวัฏ
ที่มีเงื่อนต้นเงื่อนปลายตามไปไม่รู้แล้ว.
โปรดทรงระลึกถึงสังสารวัฏ ที่ประกอบด้วย
นาตา น้ำนม และน้ำเลือด โดยความเป็นสังสารวัฏ
ที่มีเงื่อนต้นเงื่อนปลาย ที่ตามไปไม่รู้แล้ว โปรดทรง
ระลึกถึงกองกระดูกทั้งหลาย ของเหล่าสัตว์ที่ท่องเที่ยว
อยู่.
โปรดทรงระลึกถึงมหาสมุทรทั้ง 4 ในน้ำตา น้ำ
นมและน้ำเลือด ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงน้อมนำมา
เปรียบเทียบ โปรดทรงระลึกถึงกองกระดูกทั้งหลาย
ในกัปหนึ่งที่เทียบเท่าภูเขาวิปุลบรรพต.
โปรดระลึกถึงแผ่นดินชมพูทวีป ที่พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าทรงนำมาเปรียบเทียบสังสารวัฏ ของสัตว์ที่ท่อง


เที่ยวอยู่ในสังสารวัฏ ที่มีเงื่อนต้นเงื่อนปลายตามไปไม่รู้
แล้ว แผ่นดินทั้งหลายทำเป็นก้อนขนาดเมล็ดพุทรา ก็
มากไม่พอกับจำนวนแม่และยายทั้งหลาย.
โปรดทรงระลึกถึงหญ้า ไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ที่พระผู้
มีพระภาคเจ้าทรงน้อมนำมาเปรียบเทียบเพราะสังสาร-
วัฏมีเงื่อนต้นเงื่อนปลายตามไปไม่รู้แล้ว ท่อนไม้ทั้ง
หลาย ขนาด 4 องคุลี ก็มากไม่เท่ากับจำนวนพ่อและ
ปู่ทั้งหลาย.
โปรดทรงระลึกถึงเต่าตาบอด และซ่องแอก อัน
หมุนไปทิศบูรพา และทิศอื่น ๆ อีกในมหาสมุทร มา
สวมหัวเต่าตาบอดตัวนั้น เปรียบเทียบในการได้อัต-
ภาพเป็นมนุษย์.
โปรดทรงระลึกถึงโทษคือกาย ที่ไม่มีแก่นสาร
เปรียบด้วยก้อนฟองน้ำ โปรดทรงเห็นขันธ์ทั้งหลาย
ไม่เที่ยง โปรดทรงระลึกถึงนรกทั้งหลาย ที่มีความ
คับแค้นมาก.
โปรดทรงระลึกถึงสัตว์ทั้งหลาย ที่พากันทำให้
รกป่าช้าในชาตินั้น ๆ เรื่อยไป โปรดทรงระลึกถึงภัย
คือจระเข้ ความเห็นแก่ปากท้อง โปรดทรงระลึกถึง
อริยสัจ 4.
เมื่ออมตนิพพานมีอยู่ จะต้องการอะไรด้วยของ
เผ็ดร้อน 5 อย่าง ที่พระองค์ทรงดื่มแล้ว เพราะว่า
ความยินดีกามทุกอย่าง เผ็ดร้อนกว่าของเผ็ดร้อน 5
อย่าง.

เมื่ออมตนิพพานมีอยู่ พระองค์จะทรงต้องการ
อะไรด้วยกามทั้งหลายที่เร่าร้อน เพราะความยินดีกาม
ทุกอย่าง อันไฟติดโพลงแล้ว ให้เดือดแล้ว ให้หวั่น
ไหวแล้ว เผาให้ร้อนแล้ว.
เมื่อเนกขัมมะที่ไม่มีข้าศึกมีอยู่ พระองค์ยังจะ
ต้องการอะไรด้วยกามทั้งหลายที่มีข้าศึกมาก กาม
ทั้งหลาย มีภัยอยู่ทั่วไปคือราชภัย อัคคีภัย อุทกภัย
และอัปปิยภัย [ภัยคือคนร่วมมรดกที่ไม่ถูกกัน] ชื่อว่า
มีข้าศึกมาก.
เมื่อโมกขธรรมมีอยู่ พระองค์ยังจะต้องการอะไร
ด้วยกามทั้งหลาย ที่มีการฆ่าการจองจำเล่า เพราะว่า
การฆ่าการจองจำมีอยู่ในกามทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย
ผู้ใคร่กาม ย่อมเสวยทุกข์ทั้งหลาย
กามทั้งหลาย เหมือนคบเพลิงที่ลุกโพงลง ย่อม
ไหม้คนถือที่ไม่ยอมปล่อย เพราะว่ากามทั้งหลาย
เปรียบเหมือนคบเพลิง ย่อมจะไหม้คนที่ไม่ยอมปล่อย
คบเพลิง.
โปรดอย่าทรงละสุขอันไพบูลย์ เพราะเหตุแห่ง
กามสุขเล็กน้อยเลย อย่าทรงเป็นดุจปลากลืนเบ็ดแล้ว
ต้องเดือดร้อนภายหลัง.
โปรดอย่าหมุนไปหมุนมาเพราะกามทั้งหลาย ดุจ
สุนัขถูกล่ามโซ่เลย เพราะกามทั้งหลาย จักทำผู้นั้น
ให้เป็นเหมือนคนจัณฑาล หิวจัด ได้สุนัขก็ทำให้
พินาศได้.

พระองค์ทรงประกอบด้วยกาม จักเสวยทุกข์อัน
หาประมาณมิได้ และความเสียใจอย่างมาก โปรด
ทรงสละกามอันไม่ยั่งยืนเสียเถิด.
เมื่อพระนิพพานที่ไม่มีความแก่มีอยู่ พระองค์
ยังจะต้องการอะไรด้วยกามทั้งหลายที่มีความแก่เล่า
ชาติทั้งปวง อันมรณะและพยาธิกำกับไว้ในภพทุกภพ.
พระนิพพานนี้ไม่แก่ พระนิพพานนี้ไม่ตาย
พระนิพพานนี้เป็นบทอันไม่แก่และไม่ตาย ไม่มีความ
เศร้าโศก ไม่ถูกข้าศึกเบียดเบียน ไม่พลาดไม่น่ากลัว
ไม่มีความเดือดร้อน.
พระนิพพานนี้ พระอริยะเป็นอันมากบรรลุแล้ว
อมตนิพพานนี้ อันผู้พยายามโดยแยบคายควรได้ใน
วันนี้นี่แหละ แต่ผู้ไม่พยายามหาอาจได้ไม่.
พระนางสุเมธาเมื่อไม่ทรงได้ความยินดีในสังขาร
กำลังทรงเกลี้ยกล่อมพระเจ้าอนิกรัตตะ ก็ทรงโยน
พระเกศาลงที่พื้นดิน.
พระเจ้าอนิกรัตตะ เสด็จลุกขึ้นประคองอัญชลี
ทูลวอนพระชนกของพระนางว่า ขอทรงโปรดปล่อย
พระนางสุเมธาทรงผนวชเถิด เพราะว่าพระนางทรง
เห็นวิโมกข์และสัจจะ
พระนางสุเมธานั้น อันพระชนกชนนีทรงปล่อย
แล้ว ทรงกลัวภัยคือความโศก ทรงผนวชแล้ว เมื่อ
ทรงศึกษาผลอันเลิศ ก็ทรงทำให้แจ้งอภิญญา 6.

พระนิพพานนั้น อัศจรรย์ไม่เคยมี ก็ได้มีแก่
พระนางสุเมธาราชธิดา พระสุเมธาเถรีได้พยากรณ์
ปุพเพนิวาสจริต เหมือนดังที่กล่าวในเวลาปรินิพพาน
ว่า
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า โกนาคมนะ
เสด็จอุบัติในโลก เมื่อสร้างสังฆารามเสร็จใหม่ ๆ
ข้าพเจ้าได้เป็นหญิง 3 คน เป็นสหายกัน [ธนัญชานี
เขมา และข้าพเจ้า] ได้ถวายวิหารทาน.
ข้าพระองค์เกิดในเทวดา 10 ครั้ง 100 ครั้ง
1,000 ครั้ง 10,000 ครั้ง ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงการเกิด
ในมนุษย์ ข้าพเจ้ามีฤทธิ์มากในหมู่เทวดา ไม่จำต้อง
กล่าวถึงฤทธิ์ในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าเป็นมเหสีนารีรัตน์
ของพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้มีรัตนะ 7 ประการ
การสร้างอารามถวายสงฆ์ เป็นวิหารทานครั้งนั้น
เป็นเหตุ เป็นแดนเกิดแห่งทิพยสมบัติ ข้อนั้นเป็นมูล
เป็นการอดทนต่อการเพ่งธรรมในพระศาสนา เป็นที่
รวมบุญครั้งแรก ข้อนั้นเป็นความดับทุกข์ สำหรับ
ข้าพเจ้าผู้ยินดีในธรรม.
ชนเหล่าใด เชื่อพระดำรัสของพระผู้มีพระภาค-
เจ้า ผู้มีพระปัญญาไม่ทราม ชนเหล่านั้นย่อมกล่าว
อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายในภพ ครั้นเบื่อหน่ายแล้ว ย่อม
คลายกำหนัด ดังนี้.

จบ สุเมธาเถรีคาถา
จบ มหานิบาต

เถรีคาถา มหานิบาต


1. อรรถกถาสุเมธาเถรีคาถา


ในมหานิบาต คาถาว่า มนฺตาวติยา นคเร เป็นต้น เป็นคาถา
ของ พระสุเมธาเถรี มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
พระเถรีแม้รูปนี้ ได้บำเพ็ญบารมีมาในพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ๆ
สร้างสมกุศลอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานมาในภพนั้น ๆ เพิ่มพูนสัมภารธรรม
เครื่องปรุงแต่งวิโมกข์โดยเคารพ ครั้งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าโกนาคมนะ
ก็บังเกิดในเรือนสกุล รู้เดียงสาแล้ว ก็มีอัธยาศัยเป็นอันเดียวกันกับเหล่ากุลธิดา
สหายของตน ร่วมกันสร้างอารามใหญ่ มอบถวายภิกษุสงฆ์ซึ่งมีพระพุทธเจ้า
เป็นประธาน เพราะบุญกรรมนั้น เมื่อแตกกายทำลายขันธ์ นางก็บังเกิดใน
สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ณ สวรรค์ชั้นนั้น นางก็เสวยทิพยสมบัติจนตลอดอายุ จุติ
จากนั้นแล้วก็บังเกิดในสวรรค์ชั้นยามา จุติจากนั้นแล้วก็บังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต
จากดุสิตสวรรค์ก็มาสวรรค์ชั้นนิมมานรดี จากสวรรค์ชั้นนิมมานรดีก็มาสวรรค์
ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี นางบังเกิดในสวรรค์กามพาจรทั้ง 5 ชั้นตามลำดับดังกล่าว
มาฉะนี้ เป็นมเหสีของท้าวเทวราช [เทวดาเจ้าสวรรค์แต่ละชั้น] ในสวรรค์
ชั้นนั้น ๆ จุติจากนั้นแล้ว ครั้งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากัสสปะ ก็เป็นธิดา
ของเศรษฐี ผู้มีสมบัติมาก รู้เดียงสาตามลำดับแล้ว ก็เลื่อมใสยิ่งในพระศาสนา
ได้กระทำบุญกรรมอันโอฬารเฉพาะพระรัตนตรัย.
ในครั้งนั้น นางอาศัยธรรมหล่อเลี้ยงชีวิต ยินดีมั่นในกุศลธรรม จน
ตลอดชีวิต จุติจากนั้น แล้วก็บังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ท่องเที่ยวไป ๆ มา ๆ