เมนู

4. รัฏฐปาลเถรคาถา


ว่าด้วยคนโง่ติดใจในโครงสร้างของร่างกาย


[388] เชิญดูอัตภาพอันธรรมดาตกแต่งให้วิจิตร มีกายเป็น
แผล อันกระดูก 300 ท่อนยกขึ้นแล้ว กระสับกระส่าย
คนพาลพากันดำริหวังมาก อันไม่มีความยั่งยืนตั้งมั่น เชิญ
ดูรูปอันปัจจัยกระทำให้จิตรด้วยแก้วมณีและกุณฑล หุ้ม
ด้วยหนังมีร่างกระดูกอยู่ภายใน งามพร้อมไปด้วยผ้าต่างๆ
มีเท้าทั้งสองอันฉาบทาด้วยครั่งสด มีหน้าอันไล้ด้วยฝุ่น
สามารถทำให้คนพาลลุ่มหลงได้ แต่ไม่สามารถทำให้
ผู้แสวงหาฝั่งโน้นลุ่มหลง ผมทั้งหลายอันบุคคลตบแต่ง
เป็นลอนคล้ายกระดานหมากรุก นัยน์ตาทั้งสองอันหยอด
ด้วยยาตา สามารถทำให้คนพาลลุ่มหลงได้ แต่ไม่
สามารถทำให้ผู้แสวงหาฝั่งโน้นลุ่มหลง กายอันเปื่อยเน่า
อันบุคคลตบแต่งแล้ว เหมือนกล่องยาตาใหม่ ๆ วิจิตร
ด้วยลวดลายต่างๆ สามารถทำให้คนพาลลุ่มหลงได้ แต่
ไม่สามารถทำให้ผู้แสวงหาฝั่งโน้นลุ่มหลง.

นายพรานเนื้อดักบ่วงไว้ แต่เนื้อไม่ติดบ่วง เมื่อ
นายพรานเนื้อคร่ำครวญอยู่ พวกเนื้อพากันนากินเหยื่อ
แล้วหนีไป บ่วงของนายพรานขาดไปแล้ว เนื้อไม่ติด
บ่วง เมื่อนายพรานเนื้อเศร้าโศกอยู่ พวกเนื้อพากันมา
กินเหยื่อแล้วหนีไป.

เราเห็นหมู่มนุษย์ที่มีทรัพย์ในโลกนี้ ได้ทรัพย์แล้ว
ไม่ให้ทานเพราะความลุ่มหลง ได้ทรัพย์แล้วทำการสั่งสม
ไว้ และปรารถนาอยากได้ยิ่งขึ้นไป พระราชากดขี่ช่วง
ชิงเอาแผ่นดิน ครอบครองแผ่นดินอันมีสาครเป็นที่สุด
ตลอดฝั่งสมุทรข้างนี้แล้ว ไม่รู้จักอิ่ม ยังปรารถนาจัก
ครอบครองฝั่งสมุทรข้างโน้นอีกต่อไป. พระราชาก็ดีมนุษย์
เหล่าอื่นเป็นอันมากก็ดี ผู้ยังไม่ปราศจากตัณหา ย่อมเข้า
ถึงความตาย ยังไม่เต็มความประสงค์ ก็พากันละทิ้ง
ร่างกายไป ความอิ่มด้วยกามทั้งหลายย่อมไม่มีในโลก
เลย หมู่ญาติพากันสยายผมร้องไห้คร่ำครวญถึงผู้นั้นและ
รำพันว่า ทำอย่างไรหนอ พวกญาติของเราจึงจะไม่ตาย
ครั้นพวกญาติตายแล้ว ก็เอาผ้าห่อนำไปเผาเสียที่เชิง
ตะกอน ผู้ที่ตายไปนั้นถูกเขาแทงด้วยหลาว เผาด้วยไฟ
ละโภคะทั้งหลาย มีแต่ผ้าผืนเดียวติดตัวไป เมื่อบุคคล
จะตาย ย่อมไม่มีญาติหรือมิตรสหายช่วยต้านทานได้
พวกที่รับมรดกก็มาขนเอาทรัพย์ของผู้ตายนั้นไป ส่วน
สัตว์ที่ตายย่อมไปตามยถากรรม เมื่อตายไม่มีทรัพย์
สมบัติอะไร ๆ คือ พวกบุตร ภรรยา ทรัพย์ แว่นแคว้น
สิ่งใด ๆ จะติดตามไปได้เลย บุคคลจะได้อายุยืนเพราะ
ทรัพย์ก็หาไม่ จะละความแก่รูปแม้เพราะทรัพย์ก็หาไม่.
นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวชีวิตนั้นแล ว่าเป็นของน้อย
ไม่ยั่งยืน มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ทั้งคนมั่งมีและ

คนยากจน ย่อมถูกต้องผัสสะเหมือนกัน ทั้งคนพาล
และคนฉลาดก็ถูกต้องผัสสะเหมือนกันทั้งนั้น แต่คนพาล
ถูกอารมณ์ที่ไม่พอใจเบียดเบียน ย่อมอยู่เป็นทุกข์เพราะ
ความเป็นพาล ส่วนนักปราชญ์อันผัสสะถูกต้องแล้ว ย่อม
ไม่หวั่นไหว เพราะฉะนั้นแล ปัญญาจึงจัดว่าประเสริฐ
กว่าทรัพย์ เพราะปัญญาเป็นเหตุให้บรรลุนิพพาน แต่
คนพาลไม่ปรารถนาจะบรรลุ พากันทำกรรมชั่วต่างๆ อยู่
ในภพน้อยภพใหญ่เพราะความหลง ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว
ผู้นั้น จะต้องเวียนตายเวียนเกิดอยู่ ในวัฏสงสารร่ำไป
บุคคลผู้มีปัญญาน้อย เมื่อมาเชื่อต่อการทำของบุคคลผู้ที่
ทำความชั่วนั้น ก็จะต้องเวียนตายเวียนเกิดอยู่ร่ำไปเหมือน
กัน โจรผู้มีธรรมอันชั่วช้า ถูกเขาจับได้พร้อมทั้งของ
กลางย่อมเดือดร้อนเพราะกรรมของตน ฉันใด หมู่สัตว์
ผู้มีธรรมอันชั่วช้า ละไปแล้วย่อมเดือดร้อนไปปรโลก
เพราะกรรมของตน ฉันนั้น.

กามทั้งหลายงามวิจิตร มีรสอร่อย น่ารื่นรมย์ใจ
ย่อมย่ำยีจิตด้วยรูปแปลกๆ ดูก่อนมหาบพิตร เพราะ
อาตมภาพได้เห็นโทษในกามคุณทั้งหลาย จึงออกบวช
สัตว์ทั้งหลายทั้งหนุ่มทั้งแก่ ย่อมตกไปเพราะร่างกายแตก
เหมือนผลไม้หล่นฉะนั้น.

ดูก่อนมหาบพิตร อาตมภาพเห็นความไม่เที่ยงแม้ข้อ
นี้จึงออกบวช ความเป็นสมณะอันไม่ผิดนั้นแลประเสริฐ

อาตมภาพออกบวชด้วยศรัทธา เข้าถึงการปฏิบัติชอบใน
ศาสนาของพระชินเจ้า บรรพชาของอาตมภาพไม่มีโทษ
อาตมภาพไม่เป็นหนี้บริโภคโภชนะ อาตมภาพเห็นกาม
ทั้งหลายโดยเป็นของอันไฟติดทั่วแล้ว เห็นทองทั้งหลาย
โดยเป็นศาสตรา เห็นทุกข์จำเดิมแต่ก้าวลงในครรภ์ เห็น
ภัยใหญ่ในนรก จึงออกบวช อาตมภาพเห็นโทษอย่างนี้
แล้ว ได้ความสังเวชในกาลนั้น ในกาลนั้นอาตมภาพ
เป็นผู้ถูกลูกศร คือราคะเป็นต้นแทงแล้ว บัดนี้บรรลุถึง
ความสิ้นอาสวะแล้ว พระศาสดาอันอาตมภาพคุ้นเคย
แล้ว คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอาตมภาพทำสำเร็จแล้ว
อาตมภาพได้ปลงภาระอันหนักลงแล้ว ถอนตัณหาเครื่อง
นำไปสู่ภพขึ้นแล้ว บรรลุถึงประโยชน์ที่กุลบุตรออกบวช
เป็นบรรพชิตต้องการนั้นแล้ว บรรลุถึงความสิ้นสังโยชน์
ทั้งปวงแล้ว.

จบรัฏฐปาลเถรคาถา

อรรถกถารัฏฐปาลเถรคาถาที่ 4


คาถาของ ท่านพระรัฏฐปาลเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปสฺส จิตฺตกตํ
พิมฺพํ
ดังนี้. เรื่องนี้มีเหตุเกิดขึ้นอย่างไร ?
ได้ยินว่า ก่อนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าปทุมุตตระจะเสด็จอุบัติ พระ-
เถระบังเกิดในตระกูลคฤหบดีมหาศาล ในนครหังสวดี เติบโตแล้ว เมื่อ
บิดาล่วงลับไป ก็ครอบครองบ้านเรือน ได้เห็นทรัพย์ที่ตกทอดมาตาม