2. อุทายีเถรคาถาว่าด้วยคาถาของพระอุทายีเถระ[384] เราเคยได้ฟังมาจากพระอรหันต์ทั้งหลายว่า มนุษย์ทั้ง หลายย่อมนอบน้อมบุคคลใด ผู้เกิดเป็นมนุษย์ เป็นพระ- พุทธเจ้าผู้ตรัสรู้เอง มีตนอันได้ฝึกฝนแล้ว มีจิตตั้งมั่น ดำเนินไปในทางของพรหม ยินดีในการสงบระงับจิต ถึง ฝั่งแห่งธรรมทั้งปวง แม้เทวดาทั้งหลายก็พากันนอบน้อม บุคคลนั้น เทวดาและมนุษย์ย่อมนอบน้อมพระสัมมาสัม- พุทธเจ้าพระองค์ใด ผู้ก้าวล่วงสังโยชน์ทั้งปวง ออกจาก ป่า คือกิเลสมาสู่นิพพาน ออกจากกามมายินดีในเนก- ขัมมะ เหมือนทองคำอันพ้นแล้วจากหินฉะนั้น พระ- สัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้นแลเป็นนาค รุ่งเรืองพ้น โลกนี้กับทั้งเทวโลก เหมือนขุนเขาหิมวันต์รุ่งเรืองล่วง ภูเขาเหล่านั้น เราจักแสดงช้างตัวประเสริฐ ซึ่งเป็นนาค นี้ชื่อโดยแท้จริง เป็นเยี่ยมกว่าบรรดาผู้มีชื่อว่านาคทั้ง หมด แก่ท่านทั้งหลาย เพราะผู้ใดไม่ทำบาป ผู้นั้นชื่อ ว่า นาค ความสงบเสงี่ยมและการไม่เบียดเบียน 2 อย่าง นี้ เป็นเท้าหน้าทั้งสองของนาค สติสัมปชัญญะเป็นเท้า หลัง ช้างตัวประเสริฐควรบูชา มีศรัทธาเป็นงวง มี อุเบกขาเป็นงาอันขาว มีสติเป็นคอ มีปัญญาเครื่อง พิจารณาค้นคว้าธรรมเป็นศีรษะ มีธรรม คือสมาวาสะเป็น |