เมนู

เถรคาถา เอกาทสกนิบาต



1. สังกิจจเถรคาถา



ว่าด้วยคาถาของพระสังกิจจเถระ


อุบาสกคนหนึ่ง ได้อ้อนวอนขอให้สังกิจจสามเณรอยู่ในวิหารแห่ง
หนึ่งด้วยคาถาว่า
[377] ดูก่อนพ่อสามเณร จะมีประโยชน์อะไรในป่า ภูเขา
ชื่อ อุชชุหานะ เป็นที่ไม่สบายในฤดูฝน เพราะฉะนั้น
ภูเขาอุชชุหานะจะมีประโยชน์อะไรแก่ท่าน ลมหัวด้วน
พัดมาอยู่ ท่านพอใจหรือ เพราะความเงียบสงัดเป็นที่
ต้องการของผู้เจริญฌาน.

สังกิจจสามเณรตอบว่า
ลมหัวด้วนในฤดูฝน ย่อมพัดผันเอาวลาหกไปฉันใด
สัญญาอันประกอบด้วยวิเวก ย่อมคร่าเอาจิตอาตมามาสู่
ความสงัดก็ฉันนั้น กายคตาสติกัมมัฏฐาน อันประกอบ
ด้วยความคลายกำหนัดในร่างกาย ย่อมเกิดขึ้นแก่อาตมา
ทันที เหมือนกาอันเป็นสัตว์เกิดแต่ฟองไข่ มีสีดำ เที่ยว
อาศัยอยู่ในป่าช้าฉะนั้น บุคคลเหล่าอื่นย่อมไม่รักษา
บรรพชิต และบรรพชิตก็ไม่รักษาคนเหล่าอื่น ภิกษุนั้นแล
เป็นผู้ไม่ห่วงใยในกามทั้งหลาย ย่อมอยู่เป็นสุข แอ่ง
ศิลาซึ่งมีน้ำใส ประกอบด้วยหมู่ชะนีและค่าง ดารดาษ

ไปด้วยสาหร่าย ย่อมยังอาตมาให้ยินดี การที่อาตมาอยู่
ในเสนาสนะป่า คือ ซอกเขาและถ้ำอันเป็นที่สงัด เป็น
ที่ซ่องเสพอาศัยแห่งมวลมฤค ย่อมทำให้อาตมายินดี
อาตมาไม่เคยรู้สึกถึงความดำริอันไม่ประเสริฐ ประกอบ
ด้วยโทษเลยว่า ขอสัตว์เหล่านี้จงถูกเบียดเบียน จงถูกฆ่า
จงได้รับทุกข์ อาตมาได้ทำความคุ้นเคยกับพระศาสดาแล้ว
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า อาตมาทำเสร็จแล้ว อาตมา
ปลงภาระอันหนักลงแล้ว ถอนตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพ
แล้ว บรรลุถึงประโยชน์ที่กุลบุตรออกบวชเป็นบรรพชิต
ด้วยศรัทธาต้องการแล้ว ถึงความสิ้นไปแห่งสังโยชน์
ทั้งปวงแล้ว อาตมาไม่ยินดีความตาย ไม่เพลิดเพลิน
ความเป็นอยู่ และรอเวลาอยู่ เหมือนลูกจ้างรอให้สิ้น
เวลาทำงานฉะนั้น อาตมาไม่ยินดีความตาย ไม่เพลิด-
เพลินความเป็นอยู่ และเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ รอเวลา
ตายอยู่.
ในเอกาทสกนิบาตนี้ พระสังกิจจเถระองค์เดียวเท่านั้น
ผู้เสร็จกิจแล้ว หมดอาสวะ ได้ภาษิตคาถาไว้ 11 คาถา
ถ้วน ฉะนี้แล.

จบสังกิจจเถรคาถา
จบเอกาทสกนิบาต

อรรถกถาเอกาทสกนิบาต


อรรถกถาสังกิจจเถรคาถาที่ 1


ในเอกาทสกนิบาต มีคาถาของท่านพระสังกิจจเถระ มีคำเริ่มต้น
ว่า กึ ตวตฺโถ วเน ตาต ดังนี้. เรื่องนั้นมีเหตุเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระเถระแม้นี้ ได้กระทำบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าในปางก่อน
สั่งสมกุศลอันเป็นอุปนิสัยแห่งวิวัฏฏะ (พระนิพพาน) ในภพนั้น ๆ ใน
พุทธุปบาทกาลนี้ ถือปฏิสนธิในตระกูลพราหมณ์มหาศาล ในกรุงสาวัตถี
เมื่อท่านอยู่ในท้องนั้นเอง มารดาป่วยไข้ทำกาละไป. เมื่อมารดาถูกนำไป
ป่าช้าเผาอยู่ มดลูกไม่ไหม้ พวกมนุษย์เอาหลาวแทงท้อง กระทบที่สุด
ดวงตาของเด็ก. มนุษย์เหล่านั้นแทงท้องนั้นแล้ว เอาถ่านเพลิงกลบไว้
แล้วก็หลีกไป. แม้ส่วนแห่งท้องก็ไหม้, ส่วนเด็กเสมือนกับรูปพิมพ์ทองคำ
บนอังคาร ได้เป็นเสมือนนอนอยู่บนกลีบปทุมฉะนั้น. จริงอยู่ ธรรมดา
ว่าสัตว์ผู้เกิดในภพสุดท้าย ถึงจะถูกภูเขาสิเนรุท่วมทับไว้ ยังไม่บรรลุ
พระอรหัตสิ้นชีวิตไปย่อมไม่มี.
รุ่งขึ้นพวกมนุษย์ไปสู่ที่ป่าช้า เห็นเด็กนอนอยู่อย่างนั้น เกิดอัศจรรย์
จิตไม่เคยมี จึงพาเด็กไปยังบ้าน ถามพวกทำนายนิมิต พวกทำนายนิมิต
กล่าวว่า ถ้าเด็กนี้จักอยู่ครองเรือนไซร้ ตลอดชั่วคนตระกูลที่ 7 ได้รับ
ทุกข์ยาก1 ถ้าจักบวชไซร้ ก็จักแวดล้อมไปด้วยสมณะ 500 เที่ยวไป.
พวกญาติกล่าวว่า เอาเถอะในเวลาเขาเจริญวัย พวกเราจักให้บวชใน
สำนักท่านพระสารีบุตรเถระของเรา พลางกล่าวว่าสังกิจจะ เพราะถูกขอ
แทงที่ลูกตา ภายหลังจึงตั้งชื่อว่า สังกิจจะ.

1. ฉบับภาษาอังกฤษว่า ไม่มีความทุกข์ยาก.