เมนู

4. จูฬปันถกเถรคาถา



ว่าด้วยคาถาของพระจูฬปันถกเถระ


[373] เมื่อก่อน ญาณคติเกิดแก่เราช้า เราจึงถูกดูหมิ่น
และพี่ชายจึงขับไล่เราว่า จงกลับไปเรือนเดี๋ยวนี้เถิด เรา
ถูกพี่ชายขับไล่แล้ว ไปยืนร้องไห้อยู่ที่ใกล้ซุ้มประตู
สังฆาราม เพราะยังมีความอาลัยในพระศาสนา พระผู้-
มีพระภาคเจ้าได้เสด็จมา ณ ที่นั้น ทรงลูบศีรษะเรา ทรง
จับแขนเราพาเข้าไปสู่สังฆาราม พระศาสดาทรงอนุ-
เคราะห์ ประทานผ้าเช็ดพระบาทให้แก่เราตรัสว่า จง
อธิษฐานผ้าสะอาดผืนนี้ ให้ตั้งมั่นดี โดยมนสิการว่า
รโชหรณํ ๆ ผ้าสำหรับเช็ดธุลี ๆ จงตั้งจิตให้มั่น นั่ง ณ
ที่ควรข้างหนึ่ง เราฟังพระดำรัสของพระองค์แล้ว เกิด
ความยินดีในพระศาสนา ได้บำเพ็ญสมาธิให้เกิดขึ้นเพื่อ
บรรลุประโยชน์อันสูงสุด เราระลึกถึงชาติก่อน ๆ ได้
ชำระทิพยจักษุให้หมดจดแล้ว ได้บรรลุวิชชา 3 คำ
สั่งสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว.
พระจูฬปันถกเถระได้เนรมิตตนขึ้นพันหนึ่ง นั่งอยู่ที่
ชีวกัมพวันอันรื่นรมย์ จนถึงเวลาเขามาบอกนิมนต์ ครั้ง
นั้น พระศาสดาทรงส่งทูตไปบอกเวลาภัตตาหารแก่เรา
เมื่อทูตบอกเวลาภัตตาหารแล้ว เราได้เข้าไปเฝ้าโดย

ทางอากาศ ถวายบังคมพระยุคลบาทของพระศาสดาแล้ว
นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ลำดับนั้น พระศาสดาทรง
รับรองเราผู้ถวายบังคมแล้วนั่งอยู่ เราเป็นผู้ควรบูชาของ
ชาวโลกทั้งปวง เป็นผู้ควรรับของอันเขานำมาบูชา เป็น
นาบุญแห่งหมู่มนุษย์ ได้รับทักษิณาทานแล้ว.

จบจูฬปันถกเถรคาถาจบ

อรรถกถาจูฬปันถกเถรคาถาที่ 4



มีคาถาของท่านพระจูฬปันถกเถระว่า ทนฺธา มยฺหํ คติ ดังนี้
เป็นต้น. เรื่องนั้นมีเหตุเกิดขึ้นอย่างไร ?
ท่านกล่าวคำที่จะพึงกล่าวในเรื่องนี้ ด้วยอำนาจเหตุเกิดแห่งเรื่อง
ไว้ในอัฏฐกนิบาต เรื่องมหาปันถกแล้วนั่นแล. ส่วนความแปลกกัน
มีดังต่อไปนี้ :-
พระมหาปันถกเถระ บรรลุพระอรหัตแล้ว ยับยั้งอยู่ด้วยความสุข
อันเกิดแต่พระอรหัตผล คิดแล้วว่า ทำอย่างไรหนอ เราจะสามารถให้
จูฬปันถก ดำรงอยู่ในความสุขอย่างนี้บ้าง.
พระมหาปันถกเถระนั้น จึงเข้าไปหาธนเศรษฐีผู้เป็นโยมตาของตน
แล้ว กล่าวว่า โยมตาผู้เป็นมหาเศรษฐี ถ้าโยมจะอนุญาตไซร้, อาตมภาพ
จะพึงให้จูฬปันถกบวชบ้าง. โยมตาเรียนว่า นิมนต์ให้เขาบวชเถิดพระคุณ
ท่าน. พระเถระจึงให้จูฬปันถกนั้นบวชแล้ว. จูฬปันถกนั้นดำรงมั่นอยู่ใน
ศีล 10 ประการแล้ว เรียนคาถาในสำนักของพระพี่ชายว่า :-