เมนู

เถรคาถา ทสกนิบาต



1. กาฬุทายีเถรคาถา



ว่าด้วยคาถาของพระกาฬุทายีเถระ


[370] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้ หมู่ไม้ทั้งหลาย มีดอก
และใบ มีสีแดงดังถ่านเพลิง ผลิผลสลัดใบเก่าร่วงหล่น
ไป หมู่ไม้เหล่านั้นงามรุ่งเรืองดังเปลวเพลิง ข้าแต่
พระองค์ผู้มีความเพียรใหญ่ เวลานี้เป็นเวลาสมควร
อนุเคราะห์หมู่พระญาติ ข้าแต่พระองค์ผู้แกล้วกล้า หมู่
ไม้ทั้งหลายมีดอกบานงามดี น่ารื่นรมย์ใจส่งกลิ่นหอม
ฟุ้งตลบไปทั่วทิศโดยรอบ ผลัดใบเก่า ผลิดอกออกผล
เวลานี้เป็นเวลาสมควรจะหลีกออกไปจากที่นี้ ขอเชิญ
พระพิชิตมารเสด็จไปสู่กรุงกบิลพัสดุ์เถิด ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ฤดูนี้เป็นฤดูที่ไม่หนาวนัก ไม่ร้อนนัก เป็นฤดู
พอสบาย ทั้งมรรคาก็สะดวก ขอพวกศากยะและโกลิยะ
ทั้งหลาย จงได้เข้าเฝ้าพระองค์ที่แม่น้ำโรหิณี อันมีปากน้ำ
อยู่ทางทิศใต้ ชาวนาไถนาด้วยความหวังผล หว่านพืช
ด้วยความหวังผล พ่อค้าผู้เที่ยวหาทรัพย์ ย่อมไปสู่สมุทร
ด้วยความหวังทรัพย์ ข้าพระองค์อยู่ในที่นี้ ด้วยความหวัง
ผลอันใด ขอความหวังผลอันนั้นจงสำเร็จแก่ข้าพระองค์
เถิด ชาวนาหว่านพืชบ่อย ๆ ฝนตกบ่อย ๆ ชาวนาไถนา
บ่อย ๆ แว่นแคว้นสมบูรณ์ด้วยธัญญาหารบ่อย ๆ พวก

ยาจกเที่ยวขอบ่อย ๆ ผู้เป็นทานบดีให้บ่อย ๆ ครั้นให้
บ่อย ๆ แล้ว ย่อมถึงสวรรค์บ่อย ๆ.
บุรุษผู้มีความเพียร มีปัญญากว้างขวาง เกิดในสกุล
ใด ย่อมยังสกุลนั้นให้บริสุทธิ์สะอาดตลอด 7 ชั่วคน
ข้าพระองค์ย่อมเข้าใจว่าพระองค์เป็นเทพเจ้าประเสริฐ
กว่าเทพเจ้าทั้งหลาย ย่อมทรงสามารถทำให้สกุลบริสุทธิ์
เพราะพระองค์เกิดแล้วโดยอริยชาติ ได้สัจนามว่า เป็น
นักปราชญ์ สมเด็จพระบิดาของพระองค์ทรงแสวงหาคุณ
อันยิ่งใหญ่ ทรงพระนามว่าสุทโธทนะ สมเด็จพระนางเจ้า
มายาพระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ เป็นพระพุทธ-
มารดา ทรงบริหารพระองค์ผู้เป็นพระโพธิสัตว์มาด้วย
พระครรภ์ เสด็จสวรรคตไปบันเทิงอยู่ในไตรทิพย์ สมเด็จ
พระนางเจ้ามายาเทวีนั้น ครั้นสวรรคตจุติจากโลกนี้แล้ว
ทรงพรั่งพร้อมด้วยกามคุณอันเป็นทิพย์ มีหมู่นางฟ้าห้อม
ล้อมบันเทิงอยู่ด้วยเบญจกามคุณ อาตมภาพเป็นบุตรของ
พระพุทธเจ้าผู้ไม่มีสิ่งใดจะย่ำยีได้ มีพระรัศมีแผ่ซ่านจาก
พระกาย ไม่มีผู้จะเปรียบปาน ผู้คงที่ ดูก่อนมหาบพิตร
พระองค์เป็นพระบิดาของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นพระบิดา
แห่งอาตมภาพ ดูก่อนมหาบพิตร พระองค์เป็นพระอัยกา
ของอาตมภาพโดยธรรม.

จบกาฬุทายีเถรคาถา

อรรถกถาทสกนิบาต



อรรถกถากาฬุทายีเถรคาถาที่ 1



ในทสกนิบาต มีคาถาของท่านพระกาฬุทายีเถระ ว่า องฺคาริโน
ดังนี้เป็นต้น. เรื่องนั้นมีเหตุเกิดขึ้นเป็นอย่างไร ?
ในกาลแห่งพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า ปทุมุตตระ ท่านพระ-
กาฬุทายีเถระแม้นี้ เกิดในเรือนอันมีสกุล ในพระนครหังสวดี เมื่อฟัง
พระธรรมเทศนาของพระศาสดา เห็นพระศาสดาทรงตั้งภิกษุรูปหนึ่ง ไว้
ในตำแหน่งแห่งผู้ทำสกุลให้เลื่อมใส แล้วทำกรรมตั้งความปรารถนาเพื่อ
ตำแหน่งนั้นแล้ว.
เขาทำกุศลกรรมจนตลอดชีวิตแล้ว ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและ
มนุษยโลก จึงถือปฏิสนธิในเรือนอำมาตย์ ในกรุงกบิลพัสดุ์นั้นแล ในวัน
เดียวกันกับพระโพธิสัตว์ของพวกเราถือปฏิสนธิในพระครรภ์พระมารดา,
เกิดก็เกิดในวันเดียวกันกับพระโพธิสัตว์เหมือนกัน ดังนั้น ในวันนั้น
นั่นแหละ พวกญาติจึงให้เด็กนั้นนอนบนเทริดที่ทำด้วยเนื้อผ้าดีชนิดหนึ่ง
พากันนำไปสู่ที่บำรุงของพระโพธิสัตว์.
จริงอยู่ สหชาติ 7 เหล่านั้นคือ ต้นโพธิพฤกษ์ 1 พระมารดาของ
พระราหุล 1 ขุมทรัพย์ทั้ง 4 ขุม 1 ช้างตระกูลอาโรหนิยะ 1 ม้า
กัณฐกะ 1 นายฉันนะ 1 กาฬุทายี 1 ได้เกิดพร้อมดับพระโพธิสัตว์
เพราะเกิดในวันเดียวกันนั่นแล. ครั้นในวันตั้งชื่อ พวกญาติก็พากันตั้งชื่อ
เขาว่าอุทายี เพราะเกิดในวันที่ชาวพระนครทั้งสิ้นมีจิตรื่นเริงเบิกบาน แต่