2. ลกุณฏกเถรคาถาว่าด้วยคาถาของพระลกุณฏกเถระ[362] ภัททิยภิกษุอยู่ ณ อัมพาฏการามอันเลอเลิศใกล้ไพร- สณฑ์ ได้ถอนตัณหาพร้อมทั้งรากขึ้นแล้ว เป็นผู้เจริญ ด้วยคุณมีศีลเป็นต้น เพ่งฌานอยู่ในไพรสณฑ์นั้น กาม- โภคีบุคคลบางพวกย่อมยินดีด้วยเสียงตะโพน เสียงพิณ และบัณเฑาะว์ แต่ความยินดีของพวกเขานั้นไม่ประเสริฐ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ส่วนเรายินดีแล้วในคำสอน ของพระพุทธเจ้า ยินดีอยู่ที่โคนไม้ ถ้าพระพุทธเจ้าได้ ประทานพรแก่เรา เรารับพรนั้นแล้ว ถือเอากายคตาสติ อันโลกทั้งปวงพึงเจริญเป็นนิตย์ ชนเหล่าใดถือรูปร่างเรา เป็นประมาณ และถือเสียงเราเป็นประมาณ ชนเหล่านั้น ตกอยู่ในอำนาจฉันทราคะ ย่อมไม่รู้จักเรา คนพาลถูก กิเลสกั้นไว้รอบด้าน ย่อมไม่รู้ภายใน ทั้งไม่เห็นภาย- นอก ย่อมลอยไปตามเสียงโฆษณา แม้บุคคลผู้เห็นผล ภายนอก ไม่รู้ภายใน เห็นแต่กายนอก ก็ลอยไปตาม เสียงโฆษณา ส่วนผู้ใดมีความเห็นไม่ถูกกั้น ย่อมรู้ชัด ทั้งภายใน และเห็นแจ้งทั้งภายนอก ผู้นั้นย่อมไม่ลอย ไปตามเสียงโฆษณา. จบลกุณฏกเถรคาถา |