เมนู

7. กาติยานเถรคาถา



ว่าด้วยคาถาของพระกาติยานเถระ


[353] จงลุกขึ้นนั่งเถิดกาติยานะ อย่ามัวนอนหลับอยู่เลย
จงตื่นขึ้นเถิด อย่าให้มัจจุราชผู้เป็นพวกพ้องของตนประ-
มาทชนะท่านผู้เกียจคร้านด้วยอุบายอันโกงเลย กำลังคลื่น
แห่งมหาสมุทร ย่อมครอบงำบุรุษผู้ไม่อาจข้ามมหาสมุทร
นั้นได้ แม้ฉันใด ชาติและชราย่อมครอบงำท่านผู้ถูก
ความเกียจคร้านครอบงำแล้ว ฉันนั้น ขอท่านจงทำเกาะ
คืออรหัตผลแก่ตนเถิด เพราะที่พึ่งอย่างอื่นในโลกนี้และ
โลกหน้า ย่อมไม่มีแก่ท่าน ก็พระศาสดาได้ทรงบอกทาง
นี้ อันล่วงพ้นจากเครื่องข้องและจากภัยคือชาติและชรา
แก่ท่านแล้ว ท่านอย่าเป็นผู้ประมาทตลอดยามต้นและ
ยามหลัง จงพยายามทำความเพียรให้มั่นเถิด ท่านจง
ปลดเปลื้องเครื่องผูกทั้งหลายอันเป็นของเดิมเสีย จะใช้
สอยผ้าสังฆาฏิและโกนศีรษะด้วยมีดโกน ฉันอาหารที่ขอ
เขามาได้ จงอย่าเห็นแก่การเล่นสนุกสนาน อย่าเห็นแก่
นอน จงหมั่นเพ่งดูธรรมเถิดกาติยานะ จงเจริญฌาน จง
ชนะกิเลสเถิดกาติยานะ ท่านจงเฉลียวฉลาดในทางอัน
ปลอดโปร่งจากโยคะ จงบรรลุถึงความบริสุทธิ์อันยอด-
เยี่ยม จงดับเพลิงกิเลส ดังบุคคลดับไฟด้วยน้ำฉะนั้น
ประทีปที่ส่องแสง ถ้ามีแสงน้อยย่อมดับไปด้วยลม หรือ

เหมือนเถาวัลย์เล็กถูกลมขจัดฉันใด ดูก่อนท่านผู้มีโคตร
เสมอกับพระอินทร์ ท่านก็ฉันนั้น จงเป็นผู้ไม่ถือมั่น กำจัด
มารเสียเถิด ก็เมื่อท่านกำจัดมารได้อย่างนี้แล้ว เป็นผู้
ปราศจากความกำหนัดพอใจในเวทนาทั้งหลาย เป็นผู้มี
ความเย็น รอคอยเวลานิพพานของตน ในอัตภาพนี้
ทีเดียว.

จบกาติยานเถรคาถา

อรรถกถากาติยานเถรคาถาที่ 7



คาถาของท่านพระกาติยานเถระ มีคำเริ่มต้น ว่า อุฏฺเฐหิ ดังนี้.
เรื่องนี้มีเหตุเกิดขึ้นอย่างไร ?
แม้พระเถระนี้ก็ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าแต่ปางก่อน
ทั้งหลาย ก่อสร้างบุญทั้งหลายไว้ในภพนั้นๆ ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิด
เป็นบุตรของพราหมณ์โกสิยโคตรตระกูลหนึ่ง ในนครสาวัตถี แต่เนื่อง
ด้วยโคตรฝ่ายมารดา จึงได้นามว่า กาติยานะ พอเจริญวัยได้เป็นสหาย
คฤหัสถ์ของพระสามัญญกานิเถระ ได้เห็นพระเถระจึงบวชกระทำสมณ-
ธรรมอยู่ ในตอนกลางคืน ขึ้นสู่จงกรมด้วยหวังจักบรรเทาความง่วงที่
ครอบงำ. ท่านเดินจงกรมอยู่ถูกความหลับครอบงำ โงนเงนล้มลงไป
นอนที่พื้นราบ ณ ที่จงกรมนั้นนั่นเอง พระศาสดาทรงเห็นความเป็นไป
นั้นของเธอ จึงเสด็จไป ณ ที่นั้นด้วยพระองค์เอง ประทับยืนใน
อากาศ ได้ประทานสัญญาณว่า กาติยานะ ท่านได้เห็นพระศาสดาจึงลุก