เมนู

5. มาลุงกยปุตตเถรคาถา



ว่าด้วยคาถาของพระมาลุงกยปุตตเถระ


[351] ตัณหาย่อมเจริญแก่สัตว์ผู้ประพฤติประมาท เหมือน
เถาย่านทรายเจริญอยู่ในป่าฉะนั้น บุคคลผู้ตกอยู่ในอำนาจ
ของตัณหา ย่อมเร่ร่อนไปในภพน้อยภพใหญ่ เหมือน
วานรอยากได้ผลไม้ เร่ร่อนไปในป่าฉะนั้น ตัณหาอันชั่วช้า
ซ่านไปในโลก ครอบงำบุคคลใด ความโศกทั้งหลาย
ย่อมเจริญแก่บุคคลนั้น เหมือนหญ้าคมบางที่ถูกฝนตก
เชยแล้วฉะนั้น ส่วนผู้ใดครอบงำตัณหาอันชั่วช้านี้ ซึ่ง
ยากที่จะล่วงได้ในโลก ความโศกทั้งหลายย่อมตกไปจาก
บุคคลนั้น เหมือนหยาดน้ำตกไปจากใบบัวฉะนั้น เพราะ-
ฉะนั้น เราขอเตือนท่านทั้งหลาย ขอความเจริญจงมีแก่
ท่านทั้งหลายที่มาประชุมกันอยู่ในสมาคมนี้ทั้งหมด ท่าน
ทั้งหลายจงขุดรากแห่งตัณหา ดุจบุคคลผู้มีความต้องการ
ด้วยแฝกขุดแฝกอยู่ฉะนั้น มารอย่าได้ระรานท่านทั้งหลาย
บ่อย ๆ ดังกระแสน้ำพัดพาไม้อ้อฉะนั้น ท่านทั้งหลาย
จงทำตามพระพุทธพจน์ ขณะอย่าได้ล่วงท่านทั้งหลายไป
เสีย เพราะผู้มีขณะอันล่วงแล้ว ย่อมยัดเยียดกันในนรก
เศร้าโศกอยู่ ความประมาทดุจธุลี ธุลีเกิดขึ้นเพราะความ

ประมาท ท่านทั้งหลายพึงถอนลูกศรอันเสียบอยู่ในหทัย
ของตน ด้วยความไม่ประมาทและด้วยวิชชาเถิด.

จบมาลุงกยปุตตเถรคาถา

อรรถกถามาลุงกยปุตตเถรคาถาที่ 5



คาถาของท่านพระมาลุงกยปุตตเถระ มีคำเริ่มต้นว่า มนุชสฺส
ดังนี้. เรื่องนั้นมีเหตุเกิดขึ้นอย่างไร ?
แม้พระเถระนี้ก็ได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธจ้า อันมีใน
ปางก่อนทั้งหลาย สั่งสมบุญไว้ในภพนั้น ๆ ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้บังเกิด
เป็นบุตรนักดูเงิน ของพระเจ้าโกศลในกรุงสาวัตถี.
มารดาของเขาชื่อ มาลุงกยา. ด้วยอำนาจของนางมาลุงกยานั้น เขา
จึงปรากฏว่า มาลุงกยบุตร นั่นแล. เขาเติบโตขึ้นเพราะเป็นผู้มีอัธยาศัยใน
การสลัดออกจากกิเลส จึงละฆราวาสออกบวชเป็นปริพาชกท่องเที่ยวไป
ได้ฟังธรรมในสำนักของพระศาสดา ได้ความศรัทธาในพระศาสนา จึง
บวชบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน ไม่นานนักก็ได้อภิญญา 6. ท่านได้ไปยัง
ตระกูลญาติ เพื่ออนุเคราะห์ญาติ. ญาติทั้งหลายได้อังคาสท่านด้วยขาทนีย-
โภชนียาหารอันประณีต ประสงค์จะล่อด้วยทรัพย์ จึงเอากองทรัพย์กอง
ใหญ่วางไว้ข้างหน้า แล้วอ้อนวอนว่า ทรัพย์นี้เป็นของท่าน ท่านจงสึกมา
ครอบครองลูกเมีย การทำบุญทั้งหลายด้วยทรัพย์นี้เถิด. พระเถระเมื่อจะ