เมนู

กันร่าเริงหรรษา ในกัปที่ 92 แต่กัปนี้ ข้าพเจ้าได้
พยากรณ์นิมิตใดไว้ ด้วยการพยากรณ์นิมิตนั้น ข้าพเจ้า
จึงไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการพยากรณ์. กิเลส
ทั้งหลายข้าพเจ้าเผาแล้ว ฯ ล ฯ คำสั่งสอนของพระ-
พุทธเจ้า ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติแล้ว.

จบอรรถกถาวารณเถรคาถา

8. ปัสสิกเถรคาถา


ว่าด้วยคาถาของพระปัสสิกเถระ


[314] ได้ยินว่า พระปัสสิกเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
คนผู้มีศรัทธา มีปัญญา ดำรงอยู่ในธรรม ถึง
พร้อมด้วยศีลแม้คนเดียว ก็มีประโยชน์แก่ญาติ
พวกพ้องทั้งหลาย ผู้ไม่มีศรัทธาในโลกนี้ ญาติทั้งหลาย
เหล่านั้น ที่ข้าพระองค์ขู่ตักเตือน ด้วยความอนุเคราะห์
เพราะความรักกันฉันญาติและเผ่าพันธุ์ จึงพากันทำ
สักการะแก่ภิกษุทั้งหลาย ถึงแก่กรรมล่วงลับไปแล้ว
ก็ประสบความสุขที่เป็นไตรทิพย์ พี่น้องและโยมผู้หญิง
ของข้าพระองค์ผู้รักกามสุข ก็พากันบันเทิงใจ.

อรรถกถาปัสสิกเถรคาถา


คาถาของพระปัสสิกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า เอโกปิ สทฺโธ เมธาวี
ดังนี้. มีเรื่องเกิดขึ้นอย่างไร ?
แม้พระเถระนี้ มีบุญญาธิการได้ทำไว้แล้ว ในพระพุทธเจ้า
องค์ก่อน ๆ เมื่อทำบุญทั้งหลายไว้ ในภพนั้น ๆ มาในกาลของพระผู้มี-
พระภาคเจ้า
ทรงพระนามว่า อัตถทัสสี ได้เกิดในคฤหาสน์ของผู้มีสกุล
บรรลุนิติภาวะแล้ว อยู่มาวันหนึ่ง ได้เห็นพระศาสดา มีจิตเลื่อมใส ได้ถวาย
ผลไม้มิลักขะ (แด่พระองค์).
ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านเมื่อท่องเที่ยวไปมาในเทวโลกและมนุษยโลก
ได้เกิดในตระกูลพราหมณ์มีนามว่า ปัสสิกะ เจริญวัยแล้ว ได้เห็นยมกปาฎิ-
หาริย์ของพระศาสดา กลับมีศรัทธา บวชแล้ว บำเพ็ญสมณธรรมอยู่ ได้เป็น
ผู้อาพาธ ครั้งนั้น ญาติทั้งหลายได้พากันอุปัฏฐากท่านให้หายโรค ตามวิธียา
ที่หมอได้รอบรู้เห็นมาแล้ว ท่านหายอาพาธแล้ว เกิดสลดใจรีบเร่งภาวนาขึ้น
ได้เป็นพระอริยเจ้า ผู้มีอภิญญา 6. ด้วยเหตุนั้นในอปทาน ท่านจึงได้กล่าว
ไว้ว่า
ข้าพเจ้าได้เห็นพระพุทธเจ้า พระนามว่า อัตถ-
ทัสสี ผู้มีพระยศมาก ที่ระหว่างป่า มีจิตเลื่อมใส ดีใจ
ได้ถวายผลไม้มิลักขะในกัปที่ 1,800 ข้าพเจ้าได้ถวาย
ผลไม้ใดในครั้งนั้น ด้วยทานนั้น ข้าพเจ้าไม่รู้จักทุคติ
เลย นี้เป็นผลของการถวายผลไม้นั้น. กิเลสทั้งหลาย
ข้าพเจ้าได้เผาแล้ว ฯลฯ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติแล้ว.