เมนู

8. ธรรมสฏปิตุเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระธรรมสฏปิตุเถระ*


[245] ได้ยินว่า พระธรรมสฏปิตุเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
เรามีอายุ 120 ปี จึงออกบวชเป็นบรรพชิต
ได้บรรลุวิชชา 3 แล้ว บำเพ็ญกิจในพระพุทธศาสนา
เสร็จแล้ว.

อรรถกถาธัมมสวปิตุเถรคาถา


คาถาของท่านพระธัมมสวปีตุเถระ เริ่มต้นว่า ส วีสวสฺสสติโก.
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร ?
แม้พระเถระนี้ ก็เป็นผู้มีอธิการอันกระทำไว้แล้วในพระพุทธเจ้าองค์
ก่อน ๆ เมื่อโลกว่างจากพระพุทธเจ้า (สุญญกัป) บังเกิดในเรือนแห่งตระกูล
ถึงความเป็นผู้รู้เดียงสาแล้ว เห็นพระปัจเจกสัมพุทธเจ้า อยู่บนภูเขาชื่อว่า
ภูตคณะ มีใจเลื่อมใส ได้ทำการบูชาด้วยดอกมะลิซ้อน.
ด้วยบุญกรรมนั้น เขาไปบังเกิดในเทวโลก ท่องเที่ยวไป ๆ มา ๆ
อยู่แต่ในสุคติภพเท่านั้น เกิดในตระกูลพราหมณ์ แคว้นมคธ ในพุทธุปบาท-
กาลนี้ บรรลุนิติภาวะแล้ว มีครอบครัว ได้บุตรชื่อว่า ธัมมสวะ เมื่อบุตร
บวชแล้ว แม้ตนเอง (ก็ย่างสู่วัยชรา) มีอายุ 120 ปี แล้วเกิดความสลด
ใจว่า บุตรของเรายังหนุ่ม บวชก่อนแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุไร เราจักไม่
* อรรถกถาว่า พระธัมมสวปีตุเถระ

บวชเล่า ? ดังนี้แล้ว ไปสู่สำนักของพระศาสดา ฟังธรรมแล้ว บวช เริ่ม
ตั้งวิปัสสนา ได้กระทำให้แจ้งพระอรหัตต่อกาลไม่นานนัก. สมดังคาถา
ประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า
มีภูเขาชื่อว่า ภูตคณะ อยู่ในที่ไม่ไกล ภูเขา
หิมวันต์ พระชินปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง สละโลกแล้ว
มาอยู่ ณ ภูเขานั้น เราจึงเอาดอกมะลิซ้อนไปบูชา
ท่าน ไม่ตกลงจตุราบาย ตลอดแสนกัปหย่อนหนึ่ง
ในกัปที่ 11 แต่ภัทรกัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ
องค์หนึ่ง มีนามว่า ธรณีรุหะ สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7
ประการ มีพลมาก. เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ฯ ล ฯ
คำสอนของพระพุทธจ้าเรากระทำสำเร็จแล้ว
ดังนี้.
ก็พระเถระครั้น บรรลุพระอรหัตแล้ว พิจารณาข้อปฏิบัติของตน
บังเกิดความโสมนัส เมื่อจะเปล่งอุทาน ได้กล่าวคาถาว่า
เรามีอายุ 120 ปี จึงออกบวชเป็นบรรพชิต
ได้บรรลุวิชชา 3 แล้วบำเพ็ญกิจในพระศาสนา เสร็จ
แล้ว
ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ส วีสวสฺสสติโก ความว่า เรามี
อายุ 120 ปี คือเรานั้นนับแต่เกิดมา มีอายุครบ 120 ปี. บทว่า ปพฺพชึ
ความว่า เข้าถึงบรรพชาเพศ. คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วทั้งนั้น. ก็คำเป็น
คาถานี้แหละ ได้เป็นคำพยากรณ์พระอรหัตผลของพระเถระนี้.
จบอรรถกถาธัมมสวปิตุเถรคาถา

9. สังฆรักขิตเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระสังฆรักขิตเถระ


[246] ได้ยินว่า พระสังฆรักขิตเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
ภิกษุผู้อยู่ในที่สงัดนี้ เห็นจะไม่คำนึงถึงคำสอน
ของพระศาสดา ผู้ทรงอนุเคราะห์สัตวโลก ด้วยประ-
โยชน์อย่างเยี่ยมเป็นแน่ จึงไม่สำรวมอินทรีย์ เหมือน
แม่เนื้อลูกอ่อนในป่า ฉะนั้น.

อรรถกถาสังฆรักขิตเถรคาถา


คาถาของท่านพระสังฆรักขิตเถระ เริ่มต้นว่า น นูนายํ ปรมหิ-
ตานุกมฺปิโน.
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร ?
แม้พระเถระนั้น ก็เป็นผู้มีอธิการอันกระทำแล้วในพระพุทธเจ้าองค์
ก่อน ๆ สั่งสมบุญไว้ในภพนั้น ๆ เกิดในเรือนแห่งตระกูล ในกัปที่ 94
แต่ภัทรกัปนี้ ถึงความเป็นผู้รู้เดียงสาแล้ว วันหนึ่ง เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า
7 องค์อยู่ที่เชิงเขา เป็นผู้มีใจโสมนัส เก็บเอาดอกกระทุ่มไปบูชา.
ด้วยบุญกรรมนั้น เขาไปบังเกิดในเทวโลก กระทำบุญแล้ว ท่อง
เที่ยวไป ๆ มา ๆ อยู่แต่ในสุคติภพเท่านั้น บังเกิดในตระกูลของผู้มั่งคั่ง
ในพระนครสาวัตถี ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้มีนามว่า สังฆรักขิต. เขาบรรลุ
นิติภาวะแล้ว ได้มีจิตศรัทธา บวชแล้ว เรียนกรรมฐาน กระทำภิกษุรูปหนึ่ง