เมนู

อรรถกถาติสสเถรคาถา


คาถาของท่านพระติสสเถระเริ่มต้นว่า หิตฺวา สตปลํ กํสํ. เรื่องราว
ของท่านเป็นอย่างไร ?
แม้พระเถระนี้ ก็เป็นผู้มีอธิการอันกระทำไว้แล้วในพระพุทธเจ้าองค์
ก่อน ๆ เกิดในตระกูลของคนทำยานพาหนะ ถึงความเป็นผู้รู้แล้ว วันหนึ่ง
เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วมีใจเลื่อมใส ทำแผ่นกระดานด้วยท่อนไม้จันทน์
แล้วน้อมถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า และพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงใช้สอย
แผ่นกระดานนั้น.
ด้วยบุญกรรมนั้น เขาบังเกิดในเทวโลก กระทำบุญแล้วท่องเที่ยว
ไปๆ มาๆ อยู่ในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย บังเกิดในราชตระกูล ในโรรุวนคร
ในพุทธุปบาทกาลนี้. พระราชกุมารเจริญพระชนพรรษาแล้ว เมื่อพระราชบิดา
สวรรคต ก็ดำรงอยู่ในราชสมบัติ เป็นอทิฏฐสหายของพระเจ้าพิมพิสาร ส่ง
บรรณาการมีแก้วมณี แก้วมุกดา และผ้าเป็นต้น ไปถวายพระเจ้าพิมพิสาร.
พระเจ้าพิมพิสาร ทรงสดับความมีบุญของพระเจ้ากรุงโรรุวะนั้น จึงทรงส่ง
เครื่องราชบรรณาการตอบไป แล้วให้จารึกพระพุทธจริยาลงในจิตรบัตร และ
จารึกปฏิจจสมุปบาท ลงในพระสุพรรณบัตรส่งไปถวาย. พระเจ้าโรรุวะ ทรง
ตรวจดูพระพุทธจรรยา ที่เขียนแสดงไว้ในจิตรบัตร และลำดับแห่งปฏิจจ-
สมุปบาท ที่จารึกไว้ในพระสุพรรณบัตร ทรงกำหนดประวัตกาล ที่เป็นอยู่ใน
ปัจจุบัน และนิวัติกาล ที่ผ่านมาในอดีต ทบทวนลำดับแห่งพระราชสาสน์ใน
พระทัย แล้วเกิดความสลดพระทัย เพราะพระองค์เป็นผู้มีอธิการอันกระทำไว้
แล้วในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ และเพราะภพนี้เป็นภพสุดท้าย จึงทรงพระดำริ

ว่า เพศพรหมจรรย์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าเราพบแล้ว และความคืบหน้าของ
พระราชสาสน์ เราก็รู้แล้ว กามทั้งหลายมีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก
ประโยชน์อะไรด้วยการอยู่ครอบครองราชสมบัติในบัดนี้ จึงทรงสละราชสมบัติ
ปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ บวชอุทิศเฉพาะพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถือเอาบาตรที่ทำด้วยดิน ประพฤติเหมือนคนเทขยะ เมื่อมหาชนกำลังปริเทวนา
การอยู่นั่นแล ออกจากพระนคร เสด็จถึงกรุงราชคฤห์โดยลำดับ เข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ประทับอยู่ที่เงื้อมเขา ชื่อว่าสัปปโสณฑิกะ ในพระนคร
ราชคฤห์นั้น ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง.
พระศาสดาทรงแสดงธรรมแล้ว ท่านสดับพระธรรมเทศนา ถือเอา
กรรมฐานในวิปัสสนา หมั่นประกอบเนือง ๆ อยู่ ขวนขวายวิปัสสนา บรรลุ
พระอรหัตแล้ว. สมดังคาถาประพันธ์ ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า
เราเป็นนายช่างทำยานอยู่ในเมือง เป็นผู้ศึกษาดี
แล้ว ในงานของช่างไม้ เราได้ทำแผ่นกระดานด้วย
ไม้จันทน์ ถวายแด่พระสัมพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์ของ
โลก วิมานอันบุญกรรมนิรมิตดีแล้ว ด้วยทองคำนี้
ย่อมสว่างไสว ยานช้าง ยานม้า อันเป็นยานทิพย์
ปรากฏแก่เรา ปราสาทและวอ และแก้วอันประมาณ
มิได้ ย่อมบังเกิดแก่เราตามปรารถนา นี้เป็นผลแห่ง
การถวายแผ่นกระดาน ในกัปที่ 91 แต่ภัทรกัปนี้ เรา
ได้ถวายแผ่นกระดานใด ด้วยการถวายแผ่นกระดาน
นั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแต่งการถวายแผ่น
กระดาน ในกัปที่ 57 แต่ภัทรกัปนี้ ได้เป็นพระเจ้า
จักรพรรดิ 4 พระองค์ มีนามว่า " นิมมิตะ "
สมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ มีพลมาก. เราเผา

กิเลสทั้งทลายแล้ว ฯ ล ฯ คำสอนของพระพุทธเจ้า
เรากระทำสำเร็จแล้ว
ดังนี้.
ก็พระเถระครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว เมื่อจะกล่าวถึงข้อปฏิบัติของตน
ด้วยสามารถแห่งอุทาน จึงได้กล่าวคาถาว่า
เราได้สละภาชนะทองคำ มีน้ำหนักประมาณ
100 ปละ วิจิตรด้วยลวดลายตั้งร้อยชนิด มาถือบาตร
ดิน นี้เป็นการอภิเษกครั้งที่สองของเรา
ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า หิตฺวา แปลว่า สละแล้ว.
บทว่า สตปลํ ได้แก่ภาชนะทองคำ ที่มีน้ำหนักประมาณ 100 ปละ.
บทว่า กํสํ ได้แก่ กังสดาล. บทว่า โสวณฺณํ แปลว่า สำเร็จด้วยทอง.
บทว่า สตราชิกํ ความว่า ประกอบด้วยลวดลายมิใช่น้อย เพราะ
ความเป็นภาชนะที่มีฝาอันวิจิตร และงดงามด้วยแนวแห่งลายเขียนเป็นอเนก.
บทว่า อคฺคหึ มตฺติกามตฺตํ ความว่า พระเถระในกาลก่อน เคยฉัน
ในภาชนะมีค่ามากเห็นปานนี้ เมื่อกระทำตามพระพุทธโอวาท คิดว่า บัดนี้
เราละภาชนะทอง แล้วถือบาตรดิน โอ ! เราทำกรรมดีแล้วหนอ ธรรมเนียม
ของพระอริยเจ้า ดำรงมาแล้วโดยลำดับดังนี้แล้ว กล่าวอนุโมทนาการสละราช
สมบัติ และการเข้าถึงบรรพชาเพศ โดยแถลงยกย่องภาชนะ (ดิน). ด้วยเหตุนั้น
พระเถระจึงกล่าวว่า นี้เป็นการอภิเษกครั้งที่ 2 ของเรา ดังนี้. อธิบายว่า
การเข้าถึงบรรพชาเพศนี้ ชื่อว่าเป็นการอภิเษกครั้งที่สองของเรา โดยถือเอา
ราชาภิเษก เป็นการอภิเษกครั้งแรก. เพราะว่าการอภิเษกครั้งแรกนั้น เป็น
กรรมที่เศร้าหมองไปด้วยกิเลสมีราคะเป็นต้น สับสนวุ่นวาย ประกอบไปด้วย
อนัตถโทษ เนื่องด้วยทุกข์ เป็นกรรมทีเลวทราม. ส่วนการอภิเษกครั้งที่ 2
ของเรานี้ ชื่อว่า สูงสุด ประณีต เพราะผิดตรงข้ามจากการอภิเษกครั้งแรกนั้น.
จบอรรถกถาติสสเถรคาถา

8. อภัยเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระอภัยเถระ


[235] ได้ยินว่า พระอภัยเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
เมื่อบุคคลได้เห็นรูปแล้ว มัวใส่ใจถึงอารมณ์
อันเป็นที่รัก สติก็หลงลืม ผู้ใดมีจิตกำหนัดยินดีเสวย
รูปารมณ์ รูปารมณ์ก็ครอบงำผู้นั้น อาสวะทั้งหลาย
ย่อมเจริญแก่ผู้นั้น ผู้เข้าถึงซึ่งมูลแห่งภพ.

อรรถกถาอภัยเถรคาถา


คาถาของท่านพระอภัยเถระ เริ่มต้นว่า รูปํ ทิสฺวา สติ มุฎฺฐา.
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร ?
แม้พระเถระนั้น ก็เป็นผู้มีอธิการอันกระทำไว้แล้วในพระพุทธเจ้า
องค์ก่อน ๆ สั่งสมบุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้ในภพนั้น ๆ เกิดใน
เรือนแห่งตระกูล ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า "สุเมธะ"
ถึงความเป็นผู้รู้แล้ว เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า สุเมธะ ในวันหนึ่ง
ได้ทำการบูชาด้วยดอกช้างน้าว.
ด้วยบุญกรรมนั้น เขาบังเกิดในหมู่เทพ กระทำบุญแล้วท่องเที่ยว
ไป ๆ มาๆ อยู่แต่ในสุคติภพเท่านั้น เกิดในตระกูลพราหมณ์ พระนครสาวัตถี
ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้มีนามว่า " อภัย " ถึงความเป็นผู้รู้แล้ว อันเหตุสมบัติ