เมนู

อรรถกถาเมฆิยเถรคาถา


คาถาของท่านพระเมฆิยเถระ เริ่มต้นว่า อนุสาสิ มหาวีโร. เรื่อง
ราวเป็นอย่างไร ?
แม้พระเถระนี้ก็มีอธิการอันกระทำไว้แล้ว ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
หว่านพืชคือกุศลไว้ในภพนั้น ๆ เกิดในเรือนมีตระกูล ในกาลของพระผู้มี-
พระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า วิปัสสี ในกัปที่ 91 แต่ภัทรกัปนี้บรรลุ
ถึงความเป็นผู้รู้แล้ว. ก็ในสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่า วิปัสสี
ทรงบรรลุถึงความสิ้นสุดแห่งพุทธกิจแล้ว ทรงปลงอายุสังขาร. เมื่อเกิดแผ่น
ดินไหวเป็นต้น เพราะเหตุที่ทรงปลงอายุสังขารนั้น มหาชนได้สะดุ้งตกใจ
กลัวแล้ว.
ลำดับนั้น ท้าวเวสวัณมหาราช ทรงเข้าใจเหตุการณ์นั้นอย่างแจ้งชัด
จึงทรงยังมหาชนให้เบาใจ. มหาชนฟังเหตุการณ์นั้น ได้ถึงความสังเวชแล้ว.
กุลบุตรนี้ สดับพุทธานุภาพ ในที่นั้นแล้ว เกิดความเคารพนับถืออย่างมาก
ในพระศาสดา เสวยปีติโสมนัสอย่างโอฬาร. ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยว
ไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เกิดในตระกูลแห่งเจ้าศากยะ ในพระนคร
กบิลพัสดุ์ ในพุทธุปบาทกาลนี้. เขาได้นามว่า เมฆิยะ.
เมฆิยมาณพนั้น เจริญวัยแล้ว บวชในสำนักของพระบรมศาสดา
อุปัฏฐากพระพุทธเจ้าอยู่ เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ชาลิกาวัน
เห็นป่ามะม่วง น่ารื่นรมย์ ริมฝั่งน้ำ กิมิกาลา ประสงค์จะอยู่ที่ป่ามะม่วงนั้น
อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสห้ามไว้ถึง 2 ครั้ง แล้วปล่อยให้ไปในครั้งที่ 3
จึงไปที่ป่ามะม่วงนั้น อันแมลงคือมิจฉาวิตก รุมเกาะกิน ไม่ได้จิตสมาธิ ไป
ยังสำนักของพระศาสดา กราบทูลความนั้นแล้ว.

ลำดับนั้น พระบรมศาสดา ได้ทรงประทานพระโอวาท แก่เธอ
โดยนัยมีอาทิว่า ดูก่อนเมฆิยะ ธรรม 5 ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อความแก่
กล้า แห่งเจโตวิมุตติยังไม่แก่กล้า ดังนี้. ท่านตั้งอยู่ในโอวาทนั้นแล้ว เจริญ
วิปัสสนา บรรลุพระอรหัตแล้ว. สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ ใน
อปทานว่า
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า วิปัสสี
ผู้เลิศในโลก ทรงปลงอายุสังขารนั้น พื้นแผ่นดิน
และน้ำก็หวั่นไหว ฟ้าก็คะนอง แม้ภพอันสวยงาม
น่าปลื้มใจ สะอาด วิจิตรของเราก็หวั่นไหว
ในขณะที่พระพุทธเจ้าทรงปลงอายุสังขาร เมื่อภพ
หวั่นไหวแล้ว ความสะดุ้งเกิดขึ้นแก่เราว่า ความ
หวั่นเกิดขึ้นเพื่ออะไรหนอ แสงสว่างอันไพบูลย์ได้
มีแล้ว ท้าวเวสวัณมา ณ ที่นี้แล้วยังมหาชนให้หาย
ความเศร้าโศกว่า ภัยไม่มีในหมู่สัตว์ ท่านทั้งหลาย
จงมีอารมณ์ตั้งมั่น ทำใจให้สงบเถิด เราประกาศ
พระพุทธานุภาพว่า โอพระพุทธเจ้า โอพระธรรม
โอความถึงพร้อมแห่งสัตถุศาสน์หนอ เมื่อ
พระพุทธเจ้า อุบัติ แผ่นดินก็หวั่นไหว ดังนี้แล้ว
บันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัป ในกัปทั้งหลายที่เหลือ
เราได้ทำกุศล ในกัปที่ 91 แต่ภัทรกัปนี้ เราได้สัญญา
ใดในกาลนั้น ด้วยสัญญานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย
นี้เป็นผลแห่งสัญญาในพระพุทธเจ้า ในกัปที่ 14 แต่

ภัทรกัปนี้ เราได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชผู้ประเสริฐ
มีนามว่า สมิตะ มีพลมาก เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว
ฯ ล ฯ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เรากระทำสำเร็จแล้ว
ดังนี้.

ก็พระเถระครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว ได้รับโอวาทเฉพาะพระพักตร์
พระบรมศาสดา เมื่อจะพยากรณ์พระอรหัตผลว่า เราบรรลุพระอรหัตแล้ว
ได้กล่าวคาถาว่า
พระมหาวีรเจ้า ผู้ถึงฝั่งแห่งธรรมทั้งปวง ได้
สั่งสอนเรา เราฟังธรรมของพระองค์แล้ว ยินดีอยู่ใน
สำนักของพระองค์ เราได้บรรลุวิชชา 3 คำสอนของ
พระพุทธเจ้าเรากระทำสำเร็จแล้ว ดังนี้.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อนุสาสิ ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า
ทรงโอวาท คือ ได้ประทานอนุสาสนี ด้วยคำมีอาทิว่า ดูก่อนเมฆิยะ ธรรม
5 ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อความแก่กล้าแห่งเจโตวิมุตติที่ยังไม่แก่กล้า ดังนี้.
บทว่า มหาวีโร ได้แก่ผู้มีความกล้าหาญมาก. อธิบายว่า ผู้มีความ
เพียรใหญ่ ด้วยองค์ธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความเพียร อันประกอบด้วยองค์ 4
ซึ่งเป็นเครื่องเสริมสร้างวิริยบารมี และด้วยความถึงพร้อมแห่งสัมมัปปธาน
4 อย่าง อันไม่ทั่วไปแก่ธรรมประเภทอื่น.
บทว่า สพฺพธมฺมาน ปารคู ความว่า ก็พระผู้มีพระภาคเจ้า ชื่อว่า
เป็นผู้ถึงซึ่งฝั่งแห่งธรรมทั้งปวง เพราะทรงถึง คือ บรรลุถึงซึ่งฝั่ง คือ ที่สุดแห่ง
ไญยธรรมทั้งปวง ด้วยการถึงแห่งพระญาณ อธิบายว่า เป็นพระสัพพัญญู.
อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า ทรงถึงซึ่งฝั่งแห่งธรรมทั้งปวง เพราะทรงถึง คือ บรรลุถึง
พระนิพพาน อันเป็นฝั่งแห่งสังขตธรรมทั้งหลายทั้งปวง.

บทว่า ตสฺสาหํ ธมฺมํ สุตฺวาน ความว่า เราฟังสัจธรรม 4 นั้น
อันพระองค์ทรงยกขึ้นแสดงเอง (ไม่ทั่วไปแก่ผู้อื่น) ของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้พุทธเจ้าพระองค์นั้น.
บทว่า วิหาสึ สนฺติเก ความว่า เราถูกมิจฉาวิตกรบกวนแล้วใน
ป่าอัมพวัน (กลับ ) ไปยังจาลิกาวิหาร พักอยู่ในที่ใกล้พระบรมศาสดานั่นแล.
บทว่า สโต แปลว่า มีสติ. อธิบายว่า ไม่ประมาทแล้วด้วยการ
เจริญสมถะและวิปัสสนา.
บทว่า อหํ นี้ พึงเปลี่ยนเป็น มยา เพิ่มเข้าในบทว่า วิชฺชา
อนุปฺปตฺตา กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ
วิชชา 3 อันเราบรรลุแล้ว คำสอน
ของพระพุทธเจ้าอันเรากระทำแล้วดังนี้ เหมือนบทว่า มํ ที่ต้องเพิ่มเข้าใน
บทว่า อนุสาสิ นี้. พระเถระประกาศการบรรลุวิชชา 3 ตามที่กล่าวแล้ว
ด้วยบทว่า กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ โดยแสดงถึงความที่พระศาสดาทรงให้
โอวาท ด้วยปุริยายอื่น. อธิบายว่า การบำเพ็ญให้บริบูรณ์ในกองศีลเป็นต้น
นั่นแล ข้าพเจ้ากระทำแล้วตามคำสอนของพระศาสดา.
จบอรรถกถาเมฆิยเถรคาถา

7. เอกธัมมสวนียเถรคาถา
ว่าด้วยคาถาของพระเอกธัมมสวนียเถระ


[204] ได้ยินว่า พระเอกธัมมสวนียเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
กิเลสทั้งหลาย เราเผาแล้ว ภพทั้งปวงเราถอน
ขึ้นแล้ว ชาติสงสารของเราสิ้นไปแล้ว บัดนี้ภพใหม่
มิได้มีต่อไป.