เมนู

7. สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุ



ว่าด้วยนางเปรตเปลือยกายมีกลิ่นเหม็น



พระเถระถามหญิงเปรตตนหนึ่งว่า
[92] ท่านเปลือยกายมีผิวพรรณเลวทราม มี
กลิ่นเหม็นเน่าฟุ้งไป หมู่แมลงวันพากันตอม
เกลื่อนกล่น ท่านเป็นใครหนอนายืนอยู่ที่นี่.

หญิงเปรตนั้นตอบว่า
ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ดิฉันเป็นเปรต ถึงทุคติ
เกิดในยมโลก เพราะทำกรรมอันลามกจึงต้อง
จากโลกนั้นไปสู่เปตโลก เวลาเช้าตลอดบุตร 7
คน เวลาเย็นอีก 7 คน แล้วกินบุตรเหล่านั้นหมด
ทั้ง 14 คนนั้น ก็ยังไม่อาจบรรเทาความหิว
ของดิฉันได้ หัวใจของดิฉันเร่าร้อนอยู่เป็นนิจ
เพราะความหิว ดิฉันเป็นดุจถูกเผาด้วยไฟในที่
อันร้อนยิ่ง ไม่ได้ประสบความเย็นเลย.

พระเถระถามว่า
ท่านทำกรรมชั่วอะไรไว้ด้วย กาย วาจา
ใจ หรือท่านกินเนื้อบุตร เพราะวิบากแห่งกรรม
อะไร.

หญิงเปรตนั้นตอบว่า
เมื่อก่อนดิฉันมีบุตร 2 คน บุตร 2 คน
นั้นกำลังหนุ่มแน่น ดิฉันเป็นผู้เข้าถึงกำลังคือบุตร
(ถือตัวว่ามีบุตร) จึงได้ดูหมิ่นสามีของตน ภาย
หลังสามีของดิฉันโกรธ จึงได้หาภรรยามาใหม่
ก็ภรรยาใหม่นั้นมีครรภ์ ดิฉันคิดชั่วต่อเขา มีใจ
ประทุษร้าย ได้ทำให้ครรภ์ตกไป ภรรยาใหม่มี
ครรภ์ 3 เดือนเท่านั้น ตกเป็นโลหิตเน่า มารดา
ของเขาโกรธดิฉัน แล้วเชิญพวกญาติมาประชุม
ซักถาม ให้ดิฉันทำการสบถและขู่เข็ญดิฉันให้
กลัว ดิฉันได้กล่าวคำสบถและมุสาวาทอย่างแรง
ว่า ถ้าดิฉันทำชั่วอย่างนี้ ขอให้ดิฉันกินเนื้อบุตร
เถิด ดิฉันมีกายเปื้อนหนองและโลหิต กินเนื้อ
บุตรทั้งหลาย เพราะวิบากแห่งกรรมคือการทำ
ครรภ์ให้ตกไป และมุสาวาททั้งสองนั้น.
จบ สัตตปุตตขาทิกเปติวัตถุที่ 7

อรรถกถาสัตตปุตตขาทกเปติวัตถุที่ 7



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภ
นางเปรตผู้กินบุตร 7 คน จึงตรัสคำนี้มีคำเริ่มต้นว่า นคฺคา
ทุพฺพณฺณรูปาสิ
ดังนี้.