เมนู

เทพบุตรนั้น ถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว
ดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ครั้งเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าได้
เห็นสมณะล้วนแต่ดี ฯ ลฯ ข้าพเจ้าจึงมีวรรณะเช่นนี้
เพราะบุญนั้น ฯ ล ฯ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่าง
ไสวไปทุกทิศ.

จบทุติยกุณฑลีวิมาน

อรรถกถาทุติยกุณฑลีวิมาน


ทุติยกุณฑลีวิมาน มีคาถาว่า อลงฺกโต มาลฺยธโร สุวตฺโถ
เป็นต้น. ทุติยกุณฑลีวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหาร กรุงสาวัตถี.
สมัยนั้น ท่านพระอัครสาวกทั้งสอง เที่ยวจาริกไปในแคว้นกาสี. คำดัง
ว่ามาเป็นต้นทั้งหมด ก็เช่นเดียวกับวิมานก่อนนั่นแหละ.
ท่านพระมหาโมคคัลลานะถามว่า
ท่านแต่งองค์ ทรงมาลัย ทรงพัสตราภรณ์อัน
สวย ตุ้มหูงาม แต่งผมและหนวดเรียบร้อย สวม
เครื่องประดับมือ มียศ อยู่ในวิมานทิพย์เหมือน
พระจันทร์.


พิณทิพย์บรรเลงไพเราะ และเหล่าเทพกัญญา
ชั้นไตรทศจำนวน 64,000 ก็เป็นผู้ดี ล้วนชำนาญ
ศิลป์ พากันมาฟ้อนรำขับร้อง ทำความบันเทิงอย่าง
โอฬาร ท่านบรรลุเทวฤทธิ์แล้วมีอานุภาพมาก ฯ ล ฯ
และวรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถาม
แล้ว ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าเห็น
สมณะทั้งหลาย ล้วนแต่ดี มีวิชชาและจรณะพรัก-
พร้อม มียศ เป็นพหูสูต มีศีลผ่องใส มีจิตเลื่อมใส
เมื่อบริจาคข้าวน้ำได้ถวายทานอย่างไพบูล โดยเคารพ.

เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึงเป็นเช่นนี้
เพราะบุญนั้น ผลนี้จึงสำเร็จแก่ข้าพเจ้า และโภคะ
ทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ข้าพเจ้า ฯ ล ฯ เพราะบุญ
นั้น ข้าพเจ้าจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะ
ของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

แม้ในคาถาทั้งหลาย ก็ไม่มีคำที่ไม่เคยมี.
จบอรรถกถาทุติยกุณฑลีวิมาน

10. อุตตรวิมาน


ว่าด้วยอุตตรวิมาน


พระมหาโมคคัลลานเถระ

ได้ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[74] สภาใดของท้าวสักกเทวราช ชื่อ
สุธรรมา หมู่เทพนั่งกันอย่างพร้อมเพรียงในสภาใด
วิมานของท่านนี้ก็อุปมาด้วยสภานั้น ส่องแสงสว่าง
อยู่ในอากาศ ท่านบรรลุเทวฤทธิ์ มีอานุภาพมาก
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร
ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่าน
จึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้น ถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว
ดีใจ ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า

ครั้งเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าเป็น
มาณพรับใช้ของพระยาปายาสิ ได้ทรัพย์มาแล้ว ได้
กระทำการแจกจ่าย อนึ่ง ท่านผู้มีศีลทั้งหลาย เป็น
ที่รักของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใส เมื่อบริจาค
ข้าวและน้ำได้ถวายทานอันไพบูลย์ โดยเคารพ
เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีวรรณะเช่นนี้ ฯ ล ฯ และ
วรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

จบอุตตรวิมาน